เพิ่งมาฟังน่าสนใจมาก ผู้บรรยายพูดได้น่าฟัง เนื้อหาก็น่าฟังมากๆ

พิธีกรมันจะขัดจังหวะอะไรหนักหนา แถมข้อมูลก็ผิด นึกว่าแน่ กำลังฟังอ.ไกรฤกษ์เพลินๆ แมร่งขัดอีกแระ

เบื่อพิธีกร ฟังไปขัดไป

ดูการสื่อสารของพิธีกร ก็พอมองออกนะ ถ้าใครฉลาดพอ

ได้ความรู้จาก อ.ไกรฤกษ์ นานา มากๆ ฟังแล้วเพลินกับอดีตที่ไม่เคยรู้..

พิธีกรทำให้การบรรยายลดคุณภาพ เสียดายแทนผู้บรรยายที่ตั้งใจพูด

24 มิถุนายน 2482 ควรจะเป็นวันเอกราชของชาติไทย ไทยสยามเราหลุดจากเมืองขึ้นอังกฤษทาง สนธิสัญญาเบาริ่ง(ฝิ่น)ของอังกฤษ สมัย ร.8 จอมพล ป.เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วเปลี่ยนชื่อจากสยามเป็นไทย

สยามเสียเอกราช เพราะสมัยรัชกาลที่5 ไทยสยามเราอยู่ใต้อำนาจของอังกฤษตาม สนธิสัญญาเบาริ่ง(ฝิ่น) โดนอังกฤษจับบังคับทำสนธิสัญญาเบาริ่ง(ฝิ่น) วันที่ 18 เมษายน 2398 สมัย ร.4 - ร.6 รวม 60 ปี

พิธีกรดำเนินรายการไม่เหมาะสมเลยครับ ทำให้รายการสะดุดโดยไม่จำเป็น และไม่เสริมมุมมองอะไรเลย ออกไปทางขัดจังหวะกว่าครับ

ได้ความรู้มาก. ครับ.

ผมอยากเป็นพิธีกรแทนครับ แหม่ มันขัดดหูขัดตายังไงไม่รู้

Harm640 คือ ไฟเซอร์ และ แอสต้า ตราวัคซิน วักกะนั่นแหละค่ะ ฝาง

ถ้าสมัยนี้นักการเมืองคงขายไปแล้ว ประเทศไทย เมืองขึ้นแน่นอน ดีที่มีพระมหากษัตริย์

จะพูดแทรกทำไมเสียอารม

พิธีกรเหมือนอยากโชว์ภูมิอ่ะ โชว์ภูมิได้ต้องโชว์มารยาทด้วยนะครับ ขัดจังหวะอาจารย์จังเลย

อานนท์โคตม.โคตร ใช้มีหูค่ะต่างหู

ASUS Harm2015 +7ประเทศ 7หุ้น หนูเปิดให้คนละหุ้นกับอ.ธงทองนั่นแหละคุ่

อยากให้ท่านที่เป็นพิธีกรมาอ่านคอมเม้นต์จริงๆ ครับ

นี่แหละคุณูปการของสถาบันพระใหากษัตริย์ แล้ว

อ.ไกรฤกษ์ช่วยหนูด้วยยยยยยยยยยยยทีม*112เมืองไทย กับอ.ธงทองค่ะ ฒ.ธ.นั้นจ่ายเองค่ะค่าใช้จ่าย

ที่น่าสังเกตุคือ ทำไมอังกฤษและฝรั่งเศสถึงมีปฏินยาร่วมกันที่จะให้สยามเป็นรัฐกันชน ทั้งฝรั่งเศสและอังกฤษไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ไทยเป็นรัฐกันชนเลย หรือหากเป็น ก็เพียงแค่มีพื้นที่เพียงเล็กน้อยก็พอ ไม่จำเป็นต้องให้มีพื้นที่ใหญ่ขนาดนี้ ถึงแม้จะไม่ใช่เส้นทางหลักที่จะขึ้นไปจีนได้ก็ตาม เพราะหากจะเอาจริง ๆ ก็หาเหตุให้รบกันอย่างพม่าก็ได้ เปรียบเทียบกับญี่ปุ่นแล้วคล้ายคลึงกัน และก็ไม่ได้มีรัฐกันชน เข้าไปหาผลประโยชน์กันคนละแคว้น ไทยกับญี่ปุ่นดำเนินนโยบายคล้ายกันคือ อยากซื้ออะไร ต้องการซื้ออะไรนำมาขายให้หมดไม่ว่าจะทรัพยากรอะไรก็ตาม ต้องการจะเอาอะไรมาขายก็ซื้อหมดให้เอามาขายในประเทศได้หมด โดยที่ทางอังกฤษและฝรั่งเศสได้เปรียบมาก ผมคิดว่านี่เป็นเหตุผลสำคัญที่อังกฤษและฝรั่งเศสไม่จำเป็นต้องยึด ซึ่งหากไม่ทำตามก็คงจะได้รับคำขู่ว่าจะใช้กำลังทหาร ซึ่งญี่ปุ่นในขณะนั้นยังไม่เข้มแข็งนัก อาวุธก็สู้ไม่ได้ หากบุกจริงก็ใช้เวลาเพียงสองวันก็ยึดได้แล้ว เรื่องใช้สยามเป็นรัฐกันชนนั้นน่าจะมีเหตุผลอื่น ๆ รวมอยู่ด้วย ในญี่ปุ่นก็ไม่ได้มีรัฐกันชน ที่ญี่ปุ่นก็มีเหตุการณ์คล้ายกับ ร.ศ. ๑๑๒ คือมีกลุ่มทหารซามูไร กองเรือเข้าโจมตีเรือสินค้าชาวต่างชาติรวมทั้งชาวอังกฤษ อังกฤษได้เรียกสินไหมสงครามจากรัฐบาลเอโดะเป็นจำนวนเงินหนึ่งแสนปอนด์ คิดเป็นหนึ่งในสามของเงินในคลังของรัฐบาลเอโอะ แต่รัฐบาลเอโดะได้ปฏิเสธโดยอ้างถึงผลประโยชน์มากมายของชาวยุโรปในญี่ปุ่น รวมถึงสิทธิสภาพนอกอาณาเขตที่กฎหมายญี่ปุ่นไม่มีผลบังคับใช้กับชาวต่างชาติ และการก่อการนี้ก็ไม่ได้เป็นการกระทำของรัฐบาล ต่างกับของสยามที่เป็นการกระทำของทางการสยาม จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะต้องจ่ายและเสียสิทธิสภาพนอกอนาเขตเสียดุลการค้ามากกว่าเดิมอีก เขมรส่วนนอกที่เสียไป เขมรก็ไม่ได้รบอะไรกันกับฝรั่งเศส เพียงเข้าไปสวามิภักดิ์ยอมทำตามทุกอย่างที่ฝรั่งเศสต้องการ ในขณะนั้นฝรั่งเศสที่ยึดเมืองจันทบุรี ตราดเพื่อแลกกันกับ เมืองปากเซ จำปาสัก เสียมราฎ พระตะบอง ศรีโสภณ เพราะต้องการอนาเขตของลุ่มน้ำโขง ผมคิดว่าซึ่งในหลวงรัชกาล ๕ ก็ทรงทราบดีจึงจำยอมแลกด้วยเพราะหากไม่แลก หรือต่อให้ยกเมืองจันทบุรี และตราด ไปให้กับฝรั่งเศสก็ไม่จบอยู่ดี ทั้ง ๆ ที่เมืองจันทบุรี และตราดนั้นเล็กกว่าตั้งเยอะ แต่เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ทางทะเลด้านอ่าวไทย อีกทั้งเมืองจันทบุรี และเมืองตราดนั้นเป็นอนาเขตของสยามแต่เดิมมาอย่างยาวนาน และเมืองที่เสียไปนั้นเป็นเพียงเมืองประเทศราชที่เพิ่งได้ครอบครองไม่นานนัก เมืองจันทบุรีและตราด จึงมีความสำคัญกว่ามากนัก และผมคิดว่าฝรั่งเศสก็เข้าใจจุดนี้ดี เมื่อพระองค์เสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ ๒ จึงได้ไปเซ็นสัญญาแลกเปลี่ยนดินแดน และยกเลิกเขตอิทธิพลเหนือดินแดนสยาม และต่อมาหลังจากเสด็จกลับจากประพาสยุโรปครั้งที่ ๒ ประมาณปี ๑๙๐๙ พระองค์ก็ทรงยกเมืองกลันตัน เมืองไทรบุรี เมืองตรังกานู ให้กับอังกฤษเพื่อแลกกับการยกเลิกสนธิสัญญาที่ให้อังกฤษมีอิทธิพลในสยามตอนใต้ อังกฤษไม่มีอิทธิพลใดในสยามอีก และก็เป็นการแลกครั้งสุดท้าย กฏหมายไทยในตอนนั้นยังไม่ทันสมัยทำให้สิทธินอกอนาเขตยังคงมีอยู่ และสยามก็ร่างประมวลกฏหมายต่าง ๆ ออกมาเรื่อย ๆ จนครบหมด และลงนามยกเลิกสนธิสัญญาสิทธินอกอนาเขตกับฝรั่งเศสต่อหน้าพระแก้วมรกตภายในโบสถ์วัดพระแก้ว ประมาณช่วงเกิดสงครามโลกครั่งที่ ๑ (ประมาณปี ๒๔๘x จำปีไม่ได้) ทำให้สยามเป็นอิสระอย่างแท้จริง การทำสงครามย่อมต้องเสียงบประมาณ เสียกำลังพลเป็นจำนวนมาก และเสียเวลาเป็นอันมาก ในการฟื้นฟู การบริหารงาน การควบคุมคนในแต่ละพื้นที่ ชนะยึดได้แต่ยึดได้ไม่นาน หรือไม่มีเสถียรภาพ เกิดการต่อต้านเนือง ๆ หากเป็นเช่นนั้นก็ไร้ประโยชน์ อังกฤษและฝรั่งเศสมีประสบการณ์เหล่านี้มาจากประเทศอื่น ๆ มาแล้วหากไม่จำเป็นก็ไม่ใช้กำลังกับประเทศที่มีความเข้มแข็งพอสมควร ซึ่งสยามในขณะนั้นมีความเข้มแข็งพอสมควรทั้งด้านการเมืองและการทหาร ด้านการทูตก็สำคัญ สยามมีความสัมพันธ์ด้านการทูตกับชาติตะวันตกมาอย่างยาวนาน และต่อเนื่อง มีทั้งที่ปรึกษา และทหารที่เป็นชาติตะวันตกมากมายหลายท่าน ทำให้สยามมีความรู้เกี่ยวกับชาติตะวันตกแนวคิด วัฒนธรรม และอื่น ๆ ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุทธยา และชาติตะวันตกก็รู้จักสยามมาอย่างยาวนาน อาจจะบางประเทศ บางเมืองในยุโรป และอาจจะรู้จักแค่เฉพาะในชนชั้นสูง แต่ที่รู้จักมากคือในสมัยในหลวงรัชกาลที่ ๔ ประชาชนในฝรั่งเศส และอังกฤษต่างก็รู้จักคิงมงกุฏ คือในหลวงรัชกาลที่ ๔ จากการที่ถวายเครื่องราช มหาพิชัยมงกุฏ แต่ในสมัยนั้นแม้ไม่มีผลอะไรมากต่อชาติตะวันตก แต่ก็มีนัยยะทางการเมืองระหว่างประเทศ และมีผลมากต่อสยามในขณะนั้น ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศขึ้นมา ถึงแม้ในขณะนั้นสยามจะไม่ได้เป็นอนานิคมแบบเป็นทางการ แต่สยามก็เป็นรัฐอาณานิคมแบบไม่ทางการ ในเบื้องหลังเราก็เป็นรัฐอนานิคมเพราะเราเสียเปรียบในทุกด้าน สูญเสียสิทธิ์นอกอนาเขต และถูกบังคับในหลาย ๆ เรื่องให้ต้องทำตาม ประเทศญี่ปุ่นก็เป็นอีกประเทศที่น่าศึกษาซึ่งอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งถูกคุกคามจากอังกฤษและฝรั่งเศสในการล่าอนานิคม ญี่ปุ่นและสยามมีความเหมือนกันคือมีการปรับตัวอย่างรวดเร็ว นำเข้าเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามา นำการค้า การบริหารแบบตะวันตกเข้ามาปรับใช้ มีการตั้งบริษัทเอกชน มีการนำรูปแบบทหารของตะวันตกมาใช้ ปรับความพร้อมของคนให้ทุกคนได้มีการศึกษา ให้รู้เท่าทันกับชาติตะวันตก เปลี่ยนการปกครองเป็นประชาธิปไตยอันมีพระจักรพรรดิ์เป็นประมุข โดยถอดแบบมาจากของอังกฤษ ญี่ปุ่นนั้นสร้างความเข้มแข็งให้กับตนเองได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่นานก็มีกำลังรบที่เข้มแข็งสามารถผลิตเรือรบ ปืนใหญ่ ปืนต่าง ๆ ได้เอง และมีความสามารถในการรบที่ทัดเทียมกับชาติตะวันตก ที่ฝรังเศสและอังกฤษก็ไม่อาจสู้ได้ รบชนะแม้กระทั่งรัสเซีย ญี่ปุ่นต่างจากเรา ณ จุดนี้เอง ซึ่งเป็นความผิดพลาดของชาติตะวันตกเองที่ปล่อยให้รัฐบาลเอโดะเข้มแข็งขึ้น และเข้มแข็งต่อเนื่องมาจนถึงสงครามโลกครั้งที่ ๒ ซึ่งญี่ปุ่นเปลี่ยนตัวเองจากผู้ถูกล่าเป็นผู้ล่าเอง ใช้เวลาพัฒนาตัวเองประมาณ ๑๐๐ ปี ผมมองว่าภัยคุกคามจากชาติตะวันตกมีให้เห็นตั้งแต่ในหลวงรัชกาลที่ ๑ แล้ว ที่อังกฤษบุกพม่า และแพ้อย่างยับเยิน ทั้ง ๆ ที่มีกำลังพลมากกว่า ๓๐ เท่า พม่าไปตีแคว้นอัสสัมของอินเดีย ซึ่งอังกฤษอยู่ในช่วงล่าอนานิคม ก็เลยปะทะกัน และพม่าไม่ยอมอังกฤษจึงรบต่อเนื่องมาอีก ๓ ครั้งจนเสียกรุง ในความคิดผม หากสยามสลับตำแหน่งกันกับพม่า ลุ่มน้ำอิรวดีคือสยาม ลุ่มน้ำเจ้าพระยาคือพม่า ผมก็ยังมีความเห็นว่า สยามก็จะรอดพ้นไปได้ด้วยดี เพราะนโยบายที่ดำเนิน ยอมตามทุกอย่างที่ต้องการ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องรบ ในขณะเดียวกันก็ปรับเปลี่ยนประเทศตัวเองในทุก ๆ ด้าน ให้มีความพร้อมทัดเทียมกับชาติตะวันตก ในขณะเดียวกันหากพม่าอยู่ในตำแหน่งลุ่มเจ้าพระยา ก็ยังต้องรบกับอังกฤษและฝรั่งเศสในคราวเดียวกันเสียด้วยซ้ำ และเสียประเทศในท้ายที่สุดอยู่ดี เหตุผลเพราะไม่ปรับเปลี่ยนตัวเองให้เท่าทันกับชาติตะวันตก ไม่โอนอ่อน ไม่ยอมเสียแม้แต่ส่วนน้อย เผชิญหน้าตลอดเวลา ในขณะที่สยามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และยอมเสียเปรียบทุกอย่าง ยอมเสียส่วนน้อยเพื่อคงส่วนใหญ่ ให้เหล่าหมาป่านี้พอใจ ป่าไม้ อังกฤษก็ตัดเอาจากอินเดียซะเหี้ยนเตียน ในไทยก็ด้วยแต่ไม่มากเท่าฝรั่งเศสที่ตัดไม้ในภาคอีสานซะเหี้ยนรวมถึงอุตสหกรรมในประเทศไทยด้วย พื้นที่ราบสูงขนส่งง่ายกว่าพื้นที่ภาคเหนือ แร่ต่าง ๆ ก็มีการขุดกันอย่างเป็นล่ำเป็นสันในทุกที่ ได้สิ่งที่ต้องการก็ไม่จำเป็นต้องรบ ก็เป็นเพียงมุมมองของผม แลกเปลี่ยนกัน แต่ละคนก็เห็นต่างกันไป

รายงานโดย นสพ.มติชิน

2336เป๊ะค่ะ ช่วยยยยยยด้วยยยยยยยยย

สยามธรรมาจลแอปเปิ้ลหนูหาย ให้ไทยขายไม่มีมาตรฐาน แอปเปิ้ลจริงต้องกันฟ้าผ่าค่ะ

มันให้หนูเป็นหมาไซบีเรียจังว่ะ

0:07:37

หัวใครบังจอ เจ้าหน้าที่ด้านโสตร-ทัศน์แย่มากครับ

ไม่มีสมุดบัญชีธนาคารสำหรับธนาคารใช้เท่านั้นB001มันยึดของหนูไปใช้ ให้รางวัลนำจับ ตำรวจ20ล้านหนูจ่ายเองเงินหนู หุ้นหนูเยอะแยะ ฒ.ธ.นั้นเองขอวหนูค่ะ

😂ตำถามตรับมติชนฝรั่งเศษตกฃงกับลอนดอนรวมทหารบุคปรารีส30คนลอนดอน70😅เห็นได้ชัด

รัชการที่3ชื่อติ่ง สกลนคร

สถาบันพระมหากษัตริย์ไทย แล้วพวกที่ออกมาด่าสถาบันมันสำนึกบ้างรึป่าว

.

ขอบคุณมากๆที่ให้ความรู้ประวัติศาสตร์ประเทศสยามครับ

มะโนมั้วมากตลกจริงๆ

เรื่องราว มันผ่านมาแล้ว....แต่การศึกษาไทย ไม่ได้ให้ ข้อมูลอะไรมาก...ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญ.....ต้องไปหาซื้อหนังสือ ตามร้านมาอ่านเอง (ของคุณไกรฤกษ์ นานา )ตอนแก่นี่แหละ...จึงรู้ว่า ฝรั่งชั่ว... / แต่ก่อน รู้สึก ว่า ฝรั่งดีหมด ตด ยังหอมกรุ่น. ด้วยกลิ่น สตอเบอรี่....

เนื้ิอหาดีแต่การนำเสนออาจจะไม่ค่อยลื่นไหล​