เราก็ลาออกจากงานโดยไม่ได้งาน เพราะ ทำงานหนักมาก จนคิดได้ว่า หาเงินมากองๆ ไม่มีเวลาใช้ แล้วป่วยกาย ป่วยใจ ไม่มีเวลาให้ครอบครัวแล้วก็ตายไปเหรอ ชีวิตเรา มันไม่ใช่ เลยลาออกเลย (แต่มีสัมภาษณ์กองๆไว้ยังไม่มีคนรับตอนที่ลาออก)

ข้อมูลสหรัฐเอามาอ้างอิงประเทศอื่นๆไม่ได้เพราะเขามีรัฐสวัสดิการเยอะมากเเละพวกนี้ฉลาดในการหลบเลี่ยงจุดอ่อนเเละยืนบนจุดเเข็งของระบบ ตัวอย่างครอบครัวมีลูกมาก ไม่ทำงานเเต่เลี้ยงดูลูกๆที่บ้าน ได้ทั้งค่าเลี้ยงดู ค่าดูเเลเด็ก อาหารสวัสดิการ ถ้าทำ homeschool ที่บ้านอีกได้ค่าสอนอีก รายจ่ายของเด็กเเทบไม่มี มีเเต่รายจ่ายผู้ใหญ่ เขาจึงรับจ้อบเป็น part time หรือ freelance

ตอนนี้เจอทุกเรื่องที่คุณโจ้พูด ทุกข้อเลยที่ถาโถมใส่เรา เราก็วางแผนจะลาออกสิ้นปีนี้ เพราะไม่ไหวทั้งกายทั้งใจ ไปหาอะไรทำที่มีอนาคตดีกว่านี้จะดีกว่า เงินเดือนตอนนี้ก็ไม่ได้เยอะอะไร ตอนแรกจะลาออกวันนั้นเลย แต่ติดว่ามีภาระ เลยต้องรอเวลา

กำลังวางแผนก่อนลาออก ไม่มีงานใหม่รองรับหรอก แต่สภาพร่างกายและจิตใจไม่ไหวแล้วจริงๆ

มาจังหวะตอนลาออกเพราะงานมันไม่ก้าวหน้าไม่พัฒนาตัวเองได้อีกแล้ว ออกมาเป็น freelance จะดูโอเคกว่า 🥲

เราก้อเป็น ไม่อยากทำก้อลาออกทั้งที่ไม่มีงาน งานหายาก มาถึงจุดนึงเราจะตอบตัวเองได้ว่าทำงานหนักไม่มีเวลา ลายาก ชีวิตเริ่มเบื่อที่วันๆ มีแต่ตื่นเช้าไปทำงานแต่เช้า ชีวิตวนลูปจนจะกลายเป็นหุ่นยนต์ ไม่มีหัวใจ ชีวิตมีแต่งาน งาน ถ้าเขากะบ่ายก้อเลิกงานดึก ไม่มีเวลาจะไปไหน ไปซื้อของ วันหยุดนักขัตฤกษ์ไม่มีทางหยุดเกิน 2 วัน 😢

สุขภาพต้องมาก่อนเรื่องจริง

คนเราบางที ก็ต้องมีศักดิ์ศรี น่ะ

สาเหตุนี้เหมือนกันค่ะ หัวหน้าที่ไม่แคร์ ไม่ซัพพอร์ตอะไร คิดเรื่องลาออกมาหลายปีแล้ว ตอนนี้กำลังเก็บเงินเพื่อตั้งต้นชีวิต และรับงานฟรีแลนซ์ไปด้วยเพื่อฝึกทักษะใหม่ๆค่ะ

กำลังคิดแบบนี้อยู่เหมือนกันตรงมาก หมดไฟซึมเศร้า และเงินไม่ใช่ทุกอย่างเลย TT

คลิปดี มีประโยชน์

กำลังจะลาออกเช่นกันครับ บ.ใช้ นโยบายลดคนเพิ่มงาน ทำงานวันละ 16 ชม. ลาพักร้อนโครตยาก ลาอะไรก็ยาก ลดสวัสดิการอีกต่างหาก สุขภาพแย่ลง

ขนาดเราได้บรรจุราชการ แต่สังคมเน่าใน toxic มาก ทนได้แค่ 5 ด. ลาออกหาสอบที่ใหม่

I like this video, that correct that you said

เราว่าสองสามปีกับโรคระบาด พร้อมกับพฤติกรรมของการใช้ชีวิตผู้คน มาพร้อมกับ mindset ใหม่ของผู้คน ไม่มีใครสนกับเม็ดเงินที่เข้ามา ในเมื่อเราไม่รู้ว่าเราจะตายหรือรอด The great resignation น่าจะเป็นภัยเงียบที่องค์กรต่างๆ ร้อนๆ หนาวๆ จริงๆ ค่ะ

สมัยนี้คนคิดเป็นครับ สุขภาพต้องมาก่อน

โควิดเป็นเหตุตอนนี้ก็นอนตีพุงยุห้องลาออกมาจะครบปึแล้ว..ห่วงสุขภาพมากกว่า..และนายจ้างเริ่มมีการบีบให้ทำสิ่งที่ไม่อยากทำความเครียด..มันไม่สนุกกับงานประจำเหมือนเมื่อก่อนแล้ว.งานล่าสุดทำมา2เดือน.เข้า10.00-20.00น.

ถ้าสุขภาพแย่เรื่องอื่นๆๆก็แย่ตามมา

มีตัวอย่างของจริงเลยครับ อยุ่ อ.คลองหลวง (สงวนชื่อบริษัท) เจ้าของ บริษัท ติดโควิด ลูกน้อง ลาออกทันที3คน ทั้งที่มี ภาระ ผ่อนรถ แต่กนีไปตายดาบหน้า คือกลัวมาก เขามีลุกเล็ก มีรอบครัว เลยต้องเผ่นทันที เจ้าของบริษัทยังไม่รุ้สาเหตุเลย

ไม่เคยลาออกเพราะไม่คิดจะทำงานออฟฟิศตั้งแต่แรกแล้วเพราะไม่ชอบให้ใครมาสั่งให้ทำแบบนั้นแบบนี้ ชอบทำงานในแบบที่ตัวเองอยากทำ ไม่ได้ทำงานออฟฟิศก็เลยไม่มีโอกาสได้ประสบการณ์การลาออกสักที ถ้าลาออกตอนนี้มีอย่างเดียวที่ลาออกได้คือ ลาออกจากการเป็นตัวเอง 555 😅😅😅