ปกติไม่สนใจเรื่อง รถเท่าไร แต่เห็นมี หน้าเฮียวิท ก้พร้อมกดเข้ามาฟัง

เฮียวิทครับ Fuel Cell คือ เมมเบรน ที่ทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาระหว่าง H2 กับ O2 ให้กลายเป็นน้ำ H2O ซึ่งพลังงานจากปฏิกิริยานี้ออกมาในรูปกระแสไฟฟ้า ออกซิเจนที่ใช้ได้มาจากอากาศภายนอกผ่านฟิลเตอร์ 2H2 + O2 2H2O

ผมอ่านหนังสือ TOYOTA WAY ผมชอบเรื่อง improvement ในหนังสือ แต่เมื่อภาพตัดมาที่รถโตโยต้า มันคือ การลดสเป็คของวันสุเพื่อให้ได้กำไรสูงสุด

แนวคิคเรื่องพลังงาน Hydrogen เป็นอะไรที่ย้อนแย้ง และ ไร้เหตุผลที่สุด - การสร้าง Hydrogen ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าจำนวนมหาศาล พูดง่ายๆ ไฟฟ้าที่ใช้แยก Hydrogen ถ้าเอาไปเติม EV วิ่งได้ไกลกว่าเยอะ - จะเอาก๊าซชีวะมวลจากฟาร์มไก่ ไปใช้แยก Hydrogen ก็กลับไปข้อแรก คือ ไม่ต้องเอาไปแยกหรอก เอาไปใช้กับ EV เลยง่ายกว่า - Hydrogen ทุกวันนี้มาจากปิโตรเลียม ขนาดคนใช้ไม่เยอะ ราคายังแพง แล้วยิ่งความต้องการสูงขึ้น ราคาคงแพงยิ่งกว่าทอง - Hydrogen มีหลายระบบ เผาตรงๆก็ยังเกิด Nox เอามาแยกประจุแบบ FCEV ระบบซับซ้อน แถมต้องใช้แร่หายาก อย่างทองคำขาวด้วย เราไม่ได้อยู่บนทางแยกครับ เพราะ ทางแยกนั้นเราเดินผ่านมา100กว่าปีแล้ว และ วันนี้เรารู้แล้วว่าทางเลือกพลังงานฟอซซิลที่เราเคยเลือก มันคือทางที่ผิด วันนี้เราแค่ย้อนกลับไปเมื่อ 100 ปีก่อน แล้วกลับมาเลือก BEV เพราะ เรารู้แล้วว่า เรามีความพร้อมเพียงพอแล้ว และ นี่คือทางเลือกที่คุ้มค่า และ ดีที่สุดในปัจจุบัน

ผมเข้าใจว่า จริงๆ แบตเตอรี่มันพัฒนาไปได้ไกลแล้ว เพียงแต่ด้วยเหตุผลและเงื่อนไขทางธุระกิจ โดยเฉพาะผลกำไรทึ่ทำให้บริษัทต่างๆ ออกผลิตภัณท์ด้วยความจำกัดแบบนี้ ยกตัวอย่างเช่น USB Thumb Drive ที่เมื่อก่อนสามารถทำให้หน่วยความจำทำได้เป็น TB แต่เขาจำกัดไว้ที่ 32 64 128 ด้วยเหตุผลทางธุระกิจ

ไฮโดรเจน หนทางมี่จะแมสมันยาก ไฟฟ้ามันง่ายกว่า 100 เท่า การเติมพลังงานแม่แต่น้ำมันยังเทียบไฟฟ้าไม่ได้ รถไฟฟ้าเติมพลังงานได้แบบมือถือเติมได้ในบ้านเราเองได้เลย ความไม่สะดวกเมื่อเดินทางไกลนับวันก็จะค่อยๆหมดไป

ชอบวีดีโอนี้ครับ ความรู้มากครับ

ขอบคุณมากครับสำหรับข่าวสารข้อมูลด้านยานยนต์และพลังงาน แล้วก็อยากให้ คุณเคน กับเฮียวิทย์ พูดทางด้านอุตสาหกรรมอาหารโลกครับว่า กลุ่มนี้เป็นยังไงบ้างแล้วในปัจจุบัน-อนาคต

ผมว่าโตโยต้าแพ้ ดูสินค้าหลายตัวแพ้ เกาหลีจีนหมด

ไม่ทราบว่ามีข่าว update ของฉางอัน มั้ยคะ

แทนที่จะแซงทางโค้ง กลัวจะแหกโค้งลงเหวจัง เพราะ มันคล้ายเคสของโนเกีย เลย😅

Synthetic fuel จะรอดไหมครับ

Toyota ที่ให้อินโดนีเซียผลิต คุณภาพแย่จริง ตอนนี้ veloz มีปัญหาเรื่องตาน้ำซึมเยอะมาก วัสดุ การประกอบ ก็ห่วย

โตโยต้าอัดเงิน อวดอ้างว่ามีของ หลายช่องเลยเนาะ ทั้งช่องยูทูบ ทั้งเพจต่างๆ แต่ไม่เห็นมีโปรดักชั่นออกมาขาย มีแต่แรงโม้ อวดว่ามี อวดว่ากำลังทำ อวดว่าเป็นเบอ1 โซลิต แต่ไหนละ แบตโซลิต ผมว่าพี่พี่เคนกับเฮียคงมีความเขิลๆบ้างแหละ ที่พูดอวยขนาดนี้ แต่ วิธีการพัฒนาเทคโนยีแบบญี่ปุ่น มันไม่ทันกินแล้ว เห็นมีคอมม้นว่าทำไฮโดรเจ้น มา20ปี แล้ว นี่ขนาดทำมา20ปี ทำไมได้แค่นี้ ไฮบริดก็มีมานานมากแล้ว จีนพึ่งจะมีไม่ถึง10ปี ยังพัฒนามาไกลได้จนเท่าญี่ปุ่นแล้ว เชื่อเหอะว่าหลายคนอยากใช้รถญี่ปุ่นมากกว่ารถจีน แต่กลายเป็นรถญี่ปุ่นมันไม่อะไรเลย จะให้จ่ายเงินแพงกว่าแล้วใช้เทคโนโลยีล้าหลัง ใครมันอยากจะใช้ ถามจริง

รอค่ายญี่ปุ่นทำรถอีวีมานานมากค่ะ เพราะเชื่อมั่นว่าจะทำได้ดี ใช้งานง่าย สะดวกสบาย คำนึงถึงผู้บริโภคเป็นหลัก ใช้มาหลายค่าย ยังไงก็ชอบโตโยต้าที่สุด นั่งสบายจริงๆ ขับง่าย ไม่วุ่นวายแบบรถยุโรป แต่บอกตรงๆ จะรอไมไ่หวแล้วนะคะ ค่าน้ำมันแพงมากๆ แล้วเทสล่าก็ราคาจะถูกกว่าแคมรีแล้ว นั่งก็สบาย กว้างขวาง หลังคาสูงโปร่ง แล้วยิ่งถ้าเราจะติดโซลาร์ที่บ้านอีก เซฟค่าไฟไปได้อีกมาก ก็ว่าจะไปลองเทสล่าแล้วนะคะ😅

ไม่ต้อง โตโยต้าหรอกครับ สินค้า ญี่ปุ่นจะค่อยๆหายไปทั้งหมด ทุกวันนี้เห็นแต่ของจีน ไม่นานเกินรอ ในความคิดผมนะ

ทำไมญี่ปุ่นไม่เคยเรียนรู้ความผิดพลาดของตัวเอง อย่างตลาดมือถือจากเบอร์1ก็กลายเป็นแพ้เขาหมด ทำอะไรเชื่องช้ามีระบบชนชั้นในบริษัทเสนออะไรทีรออนุมัติกว่าจะผ่านแต่ละระดับชั้นเป็นปี ถ้าแพ้ด้านบานยนต์อีกจะหัวเราะให้ พวกคนเก่าคนแก่ที่มักยึดติดแต่อะไรเดิมๆเงยหน้ามาอีกทีโลกเขาไปถึงไหนกันละ

Toyota เลือกทางลัด คือไปกับเพื่อน จับกับพันธมิตร อย่าง BYD ที่ชำนาญเรื่องแบตเตอร์รี่มากกว่า อาจมากกว่า Tesla ซะอีก รถยนต์ แตกต่างจากมือถือ ตรงที่ราคาแพงกว่า และใช้งานนานกว่า ไม่ได้เปลี่ยนกันบ่อยๆ Toyota คงไม่ล้มหายตายจากไปง่ายๆ ถึงแม้ว่าจะพัฒนา EV ช้า เพราะหลงไปพัฒนารถ Full cell อยู่ เชื่อว่า EV ไม่ใช่ว่าทุกคนจะซื้อใช้ได้ทั้งหมด เหมาะกับคนมีฐานะและเวลามากกว่า ดูแค่เทศกาลที่ผ่านมาสิ จอดรอชาร์ตเป็นวัน EU เอง ก็เลื่อนการบังคับการขายรถสันดาบภายในออกไปแล้ว เพราะถ้าบังคับให้เลิกผลิตคนตกงานเยอะแน่ๆ เพราะรถ EV ใช้ชิ้นส่วนน้อยกว่ามาก

ผมมองว่าประเด็น Toyota กับ CP น่าจะมองแนวทางการผลิต H2 จาก Biogas ครับ ไม่ใช่ Biomass

สวนกระแส และสิ่งที่พัฒนายังไม่เป็น Mass product ผมใช้ veloz + lpg

Thank you เด้อ

Toyota จะเป็นเหมือน Kodak หรือไม่ ติดตามตอนต่อไป

กระบะ Isuzu ที่เป็นพลังไฟฟ้า จะผลิตออกมาได้มั้ยครับ

คงเหมือนกับ โนเกีย นั้นละครับ มีอยู่ในปัจจุบัน แต่น้อยมาก

ดีใจที่ท่านช่วยบอกเรื่องนี้ ดิฉันเชื่อมั่นหากโตโยต้ามุ่งรถพลังงานไฮโดรเจนและรัฐบาลญี่ปุ่นสนับสนุน ย่อมทำได้และไปในแนวทางที่เหมาะสม ค่ะ

มองกันยาวๆ อย่าง Prius PHV ผมว่ามาถูกทางยังไม่ต้องเป็น EV 100% ก็ได้ มันมีหลายอย่าง ที่จีนยังด้อยกว่ารถญี่ปุ่น เช่นวัสดุ การกันสนิม ความทนทานเป็นต้น

EV เถอะ ง่ายกว่าเยอะ ชิ้นส่วนเครื่องยนต์น้อยกว่ามากๆ ชาร์จไฟได้ทุกที่ 🎉

อุตสาหกรรมรถญี่ปุ่นบ้านเราเลยชะงักไปด้วยเลย เค้าก็ชะลอก.ลงทุน ไม่ขยายโรงงาน ไม่เพิ่มเครื่องจักร รอดูทรงก่อนว่าแบรนด์รถญี่ปุ่นจะเอายังไง ไปทางไหน จีนมักจะนำเข้ามาทั้งคัน ไม่ได้แยกชิ้นส่วนมาประกอบแบบญี่ปุ่น เลยใช้โรงงานน้อย ซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนก็น้อยตาม ก็ขอให้มากันอีกเยอะๆ จะได้มาลงทุนในไทย จ้างแรงงานไทยเพิ่ม แล้วต่อไปเราจะได้เป็นฐานผลิตอีวีแบบสมัยที่เราเคยเป็นฐานผลิตรถญี่ปุ่น แต่อยากจะขอภาครัฐช่วยสนับสนุนมากกว่านี้ ไม่งั้นเค้าไปลงมาเลเซียหมด เราก็ไม่ได้อะไรเลย เราพลาดไปหลายบริษัทแล้ว

กว่าไฮโดรเจนจะแมส แบตตารี่ รฟฟ พัฒนาไปไกลแล้ว เราเห็นตลาดไอทียุ่นสลายมาละ อย่าบอกนะจะมารถยนต์อีก

ชอบวลีติดปากของเฮีย ที่ว่า "เอ้ เราทำไงดีวะ" "งั้นเรามาทำงี้กันมะ" พร้อมขมวดคิ้ว ดีดนิ้ว แล้วก็บอก solution ว่ามันแก้ยังไง เค้าทำยัง ไง โคตรจะกิมมิก แล้วจะเชื้อเชิญให้คิดตามเลยครับ

เชื่อมั่นในโตโยต้าครับ ว่าเทคโนโลยีที่มีอยู่จะสามารถนำหน้าคูแข่งได้ในไม่ช้า

เชียร์ญี่ปุ่น ไม่อยากให้จีนคลุมตลาด

To ยังยึดติดกับความสำเร็จในวันก่อนๆ ยังคงต้องการทำรถที่ขับเคลื่อนด้วย ICE เพราะ เขาเป็น best in class

คลิปไหนเฮียวิท ผมดูหมด

รถค่ายจีนแค่โชคดีอุตหกรรมรถยนต์ยังไม่ใหญ่มากเท่า toyota เขาเริ่มไฟฟ้าได้ง่าย และถ้าไม่มี tesla เริ่มกระแสคงไม่ได้เกิดคนส่วนมากไม่เคยคิดเอาแต่ชมจีนเก่งอย่างงั้นอย่างงี้

4:30 ceo TMT ดู ไม่ active EV เลย การลงทุนก็น้อย เทียบ Tesla คนละระดับเลย บอก vision ceo ได้เลยแหะ 6:29 Yuko Togo ประกาศแผน TMT Solid state batt & hydrogen (Skill ceo vision พาทั้งบริษัทแพ้) red ocean & x/vau* & dna tech 18:00 ceo ย่อมรู้ข้อมูล ความต้องการลูกค้า ณ สภาพปัจจุบัน แต่ ข้อเสียคือ เขาอยู่แค่ในอุต รถน้ำมัน มาทั้งชีวิต สิ่งที่ อุตเก่าโดน disrupted vision ที่เปลี่ยนไม่ทัน เทียบ Samsung ที่เปลี่ยนทัน แต่ญี่ปุ่นหาย 24:30 โลกการแข่ง จีนคงไม่อยู่เฉย และจะใช้ การบุกแบบ ข้อได้เปรียบ size ตลาด เพิ่มมาคือ red ocean แบบจีน (มาแน่ นึกภาพง่ายๆ alibaba) แข่งต้นทุนยากแน่ สิ่งนึงที่พอจะรอดได้คือ เราคือเจ้าถิ่น หากใช้สิ่งนี้ อาจรอดจาก 7-11 26:40 multi pathways ช่วงแรกอันไม่แปลก ที่ยังไม่ชัดว่า tech ไหนจะรอด (แต่มันอาจเป็นข้อเสียที่ทำให้ ไม่ focus ) เลือกมาแต่แรก แล้ว ไปให้เร็ว ถึงจะแข่งได้ เงินเราไม่เยอะ ขนาดจะลองหลายอย่างได้ TMT ใหญ่และช้า ไม่เข้าใจความอดอยาก red ocean

ส่วนหนึ่งที่ทำให้โตโยต้าดำเนินการไปได้ช้า นั่นก็คือเหตุผลด้านของ chain, supplier, partner ต่างๆที่เกี่ยวกับรถสันดาป เขาไม่สามารถละทิ้งคู่ค้าเหล่านี้ได้อย่างทันทีทันใด มันต้องค่อยๆหยุดหรือปรับเปลี่ยนเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย ไม่เหมือนบริษัทจีนหลายๆแห่งที่มีขนาดเล็กกว่า chain ไม่ใหญ่คู่ค้าน้อย หรือบางแบรนด์คือเริ่มจากศูนย์เลย บริษัทเหล่านี้ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง ธุรกิจไปได้ทันที

โตโยต้า จะเหมือนกับ โนเกียนะ คิดช้า ไม่กล้าขยับไปข้างหน้า มีการทำอะไรใหม่แล้ว แต่ไม่ทัน

ใครช้า ตกขบวนแน่นอน เหมือนโทรศัพท์มือถือ

12:21 นึกถึง Nokia 3310 รุ่นสมัยก่อนเลย ชาร์จทีนึง อยู่ได้ 3 วัน แต่แบตมือถือสมัยนี้ ถ้าใช้หนักๆ ไม่ถึงวันก็หมดแล้ว

Toyota = Kodak + Nokia 🥺🥺🥺 ไฮโดรเจน ยากมากที่จะเกิด ใครคิดจะไปทางนี้คือ หายนะ

ง่ายๆ Toyota Prius เป็นไฮบริดตัวแรกในไทยเลย ตอนนั้นคนก็บอกรถแพง ซ่อมแพง แต่ปัจจุบันมีแต่คนอยากหามาใช้ เพราะรถมันดีและทนจริงๆ ในตอนนั้นคนก็ไม่คิดหรอกจะมีไฮบริดออกมา จนตอนนี้มี BZ4X ออกมา โดยคนก็ไม่รู้ว่ามันจะมีไฟฟ้าออกมา ญี่ปุ่นถ้าไม่ดีเขาไม่ทำออกมา ยิ่งวงการยานยนต์มันขยับปุปปัปไม่ได้ โดยเฉพาะกลุ่มที่ทำรถแบบเดิมมาก่อน มันไม่เหมือนพวกยี่ห้ออื่นที่มาปุ้ปทำไฟฟ้าเลย เพราะไม่ได้ทำรถแบบเดิมมาก่อน จากใจผมที่เคยทำ R&D พาร์ทยานยนต์ญี่ปุ่นมาก่อน ผมกล้าพูดเลยว่าทุกๆวันนี้เราใช้เทคโนโลยีเก่ากันทั้งนั้น มันคือของที่ทำไว้เมื่อ5-10ปีที่แล้ว ผมเชื่อว่าโตโยต้าแค่รอเวลาที่เหมาะสมจริงๆแหละ สัดส่วนรถไฟฟ้ามันก็ยังไม่ใช่ % ที่เยอะขนาดนั้น ถ้าเทียบทั่วโลกในภาพรวม

ผมสงสัยว่า Lexus ก็ของ Toyota ซึ่ง Lexus ก็มี BEV ทำไม Toyota ถึงไม่ผลิตออกมาลุย BEV แบบ Lexus เลย

Nio ประกาศใช้ Solid State เริ่มตั้งแต่แต่เดือน July ด้วยระยะการวิ่งถึง 900 กว่า กม. แล้วครับ

ระหว่างรอ ถัง CNG หมดอายุ ผมจะรอ Toyota ออกไฟฟ้าหรือไฮโดรเจน

เมื่อก่อน ยังไม่มีรถไฟฟ้าทำมัยไม่รีบทำออกมา พอรถไฟฟ้ มา เสือกออกมาตอนนี้ ผมรู้ว่า โตทำได้แน่ๆ แต่ไม่รีบเอาออกมา แต่เอาออกมาช่วงนี้เพื่อดึงขายเครื่องยนต์ไปให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้

ตัวเลขยอดผลิตและยอดขายของ BEV มันโตขึ้นแบบมีอัตราเร่ง สถิติก็ชี้ชัดว่า adoption กำลังเกิดในอัตราก้าวกระโดดนะครับ อย่างน้อย Toyota ควรมีบทบาทต่อวงการ BEV ในยุคที่กำลังโตมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ถ้ามัวแต่ซุ่มสร้างเทคโนโลยีของตัวเองโดยหวังว่าจะมาพลิกแซงทุกคนในตลาดทีเดียว น่าจะลำบากมากเพราะคนอื่นเค้าก็ไม่อยู่นิ่ง ระหว่างที่ Toyota กำลังซุ่มพัฒนาอย่างหนักแต่ไม่ขยับในตลาดที่กำลังร้อนแรง คนอื่นเค้าก็สร้างรายได้สร้างยอดขาย สร้างชื่อเสียง พัฒนาเทคโนโลยีที่มาจากการเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากการแข่งขัน ยิ่งนานยิ่งมี Network effect ที่แข็งแกร่งและไปไกลมาก รู้ตัวอีกทีก็อาจจะกลับมาไม่ทันแล้วนะครับ นอกจากเสียว่าจะกลับมาพร้อมเทคโนโลยีที่ทำให้วงแตก สะเทือนวงการ พลิกฟ้าพลิกแผ่นดินกันไปเลย

ไม่มีอะไรที่ค่ายนี้ทำไม่ได้ครับ แต่คงคิดว่า EV ยังไม่ใช่จุดเปลี่ยนจริงๆที่น่าสนใจ

สำหรับผมแล้วพี่โต ดับแน่อนอน

ตอนนี้ใช้ Toyota Mirai อยู่เครื่องแรงเร่งดี ถ้าราคาลงกว่านี้ สนับสนุนเต็มที่ครับ

เชื่อมั่นใน โกดัก และ โนเกีย มากกครับ

มาดูเพราะมีหน้าเฮียวิท

จำโนเกียได้ไหม?? เบอร์หนึ่งของโลก หึๆ

นึกถึง nokia เลยแบบนี้

น่าสนใจว่าจะซ้ำรอย Nokia หรือไม่ 😅

เฮียคับ โตต้าเค้าย้ายไปใช้ แอมโมเนีย แล้วฮะ

บริษัทโตโยต้าใช้รถพลังงานไฮโดรเจนมาเป็น 20 ปี แลัวครับผม ผมเชื่อว่าบริษัทนี้จะไม่แพ้ในเกมเปลี่ยนผ่านพลังงานในครั้งนี้แน่นอน กลับกันด้วยซ้ำโตโยต้าจะมาทำให้สิ่งที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันได้ข้อยุติที่ชัดเจนยิ่งขึ้นในเรื่องอนาคตของเส้นทางต่อไปที่ทางบริษัทจะไปต่อหลังจากนี้ครับผม

ทำออกมาให้เป็น mass production สัก model เถอะครับ ค่อยคุย นี่ยังไม่มี bev สักคันออกมาขาย

บางทีโตโยต้าอาจจะปล่อยหมัดเด็ดแบบโคนิเสคกาเมร่า รถยนต์สันดาบที่ปล่อยคาร์บอนเป็น0

Nokia แห่งวงการ ยานยนต์

จีนรอจังหวะเสียบทั้งที่..เข้าตลาดแบบไม่เคยทำให้คนไทยมั่นใจมาก่อน..ส่วนผู้บริโภคไทย..อะไรถูกใจ..ถูกราคา.คว้าไว้ก่อน.เสียแล้วทิ้ง..อะไหล่ไม่มี..ประกันแพงชั่งหัวมัน..

โนเกีย เคยล้ม มาแล้วนะ

พอมีเรื่อง EV ทีไรไม่เห็นมีคนด่าฮอนด้ามั่งวะ 555 โตโยต้าทำไรก็ผิด

พอเห็นหน้าเฮียผมรีบเข้ามาดูเลยครับ...เหมือนว่าผมเป็นติ่งของเฮียแกไปล่ะ

ถ้ามีชุดคิดสันดาบ ไฮโดรเจนคงดี..

Toyota กำลังถูกทิ้ง เหมือนกับสินค้าประเภทอื่นๆ

toyota เคยบอกว่าจะเปิดตัว solid state battery ตอนโตเกียวโอลิมปิค2020 แต่ก็ทำไม่ได้ หลังจากนั้นอีกปีนึง ออกมาบอกว่าราคาแพงเกินไป อาจจะเริ่มใส่ใน HEV ก่อน ผมว่าที่ออกมาตีข่าวก็แค่แก้เกี้ยวไปงั้น ไม่อยากยอมรับกับนักลงทุนว่าตัวเองไม่พร้อมแข่งเท่านั้นเอง ส่วนเรื่องhydrogen ถ้ายังแก้เรื่อง energy efficientcy ไม่ได้ก็ไม่มีทางเกิดหรอกครับ แทนที่จะเอาไฟฟ้ามาแยกไฮโดรเจน เอามาเติมแบตไปเลยไม่ง่ายกว่ารึ เรื่อง CP+Toyota ผมว่าที่ไปจับมือเพราะอยากได้มีเทนจากมูลสัตว์มากกว่า เพราะทุกวันนี้ไฮโดรเจนที่ถูกที่สุดคือได้จากการแยกมีเทนจากก๊าซปิโตเลียม แต่ก็นั่นแหละ เอามีเทนไปผลิตไฟฟ้า เติมแบตตรงๆlostน้อยกว่าเยอะ

👍

ผมนี้ชอบฟัง เฮียและน้อง มาก

ผมว่า ทำ solid battery ที่ Toyota น่าจะไปทางนั่นมากกว่าครับ เรื่อง ส่วนเรื่อง H2O ผมว่ามันมีมานานแล้ว ถ้าทำได้ก็ไม่คุ้มครับ

เขามั่นใจว่ายังไง ภาคธุรกิจขนส่งยังต้องใช้รถสันดาบ ระวังความชะล่าใจนี้ (โนเกียก็ไม่รู้ตัว หวังพัฒนาซิมเบียนมาสู้ ก็ไม่ทันคนอื่นแล้ว เงินหมดไปกับการวิจัย แต่ขายได้น้อย) เมื่อไหร่มีโรงงานผลิตแบตเยอะๆ เป็นอะไหล่ ราคาก็จะถูก ความกังวลที่คนยังไม่กล้าเปลี่ยนไปใช้อีวี เพราะเรื่องแบต

โตโยต้าจะกลายเป็นโนเกีย ที่ตามแอนดรอยกับไอโอเอส ไม่ทันแล้วหายจากวงการไปรึเปล่า

TOYOTA เลือกทำ 2 Way คือทำทั้ง EV และ ไฮโดรเจน แต่ผมว่า Way ของไฮโดรเจนค่อนข้างเสี่ยงที่จะโครงการคว่ำ ดูได้จากที่ TOYOTA ก็ไม่แน่ใจจึงต้องพัฒนา EV คู่กันไปด้วย

ขายแพงเกินไป.รถไม่หรู..รถอื่นๆขายถูกและหรูกว่า./ดีกว่า.

อีกไม่นานจะเหมือนกับ โซนี่ที่แพ้ซัมซุงจนหายไปจากตลาด ปลาเร็วกินปลาใหญ่ ใครปรับตัวช้าจะหายไปจากตลาด

ช่วยพูดให้เสียงดังเท่ากันได้มั้ยครับ ตอนผ่อนเสียงบางช่วงโคตรจะเบา พูดในลำคอ

หากโตโยต้าไม่เร่งปรับตัวและพัฒนารถEV100%อย่างจริงจัง เชื่อแน่ว่าอาจจะเหมือน โนเกีย อดีตเจ้าพ่อมือถือ ที่ไม่ยอมปรับตัวพัฒนามือถือให้ทันสมัย สุดท้ายถูกแบรนด์อื่นๆ ครองเจ้าตลาดแทน ทุกวันนี้บ้านเรา มีแต่รถยนต์EVจีน วิ่งกันบนถนน แต่ละรุ่นสวยๆ ทั้งนั้นชาร์จ1ครั้งขับขี่ได้ไกล ถึง400-500 กิโลเมตร ราคาก็ไม่แพงเหมือนรถญี่ปุ่น

ซุ่ม Solid-State มาตั้งแต่ปี 2015 บอกว่าถึงขั้น Prototype แล้ว เรื่องของเรื่องคือประกาศเอาใจผู้ถือหุ้น เพราะผู้ถือหุ้นเริ่มไม่แน่ใจกลยุทธ์ของ Toyota

ไฮโดรเจน..ไม่มีทางเลือก น้ำมัน ไม่มีทางเลือก ส่วน ev มีทางเลือกหลากหลาย แสงอาทิตย์ ฟอสซิล พลังงานลม

สวัสดีครับ

คนที่จะชนะคือ คนที่สามารถทำให้รถยนต์หรือเครื่องยนต์เติมน้ำประปาตามบ้านเรือนได้แล้ววิ่งได้ ใครทำได้ก็คองโลกไปเลยครับ

จริงๆถ้าตามกระแส จะมีเงินมาต่อยอดได้ดีและเร็วมากกว่า ก็ดีไปอีกแบบ

ต้องเร่งความเร็วในการฟัง x1.75 เอื้อนเอ่ยเกินไป

100 ปีก็ไม่สายคับ

แบตเตอรี่ solid state ถ้าเกิดขึ้นจริงไม่ใช่ว่า Toyota จะสามารถผูกขาดได้หลายบริษัทก็มองเทคโนโลยีแบตเตอรี่ตาเป็นมันไม่ว่าใครจะผลิตแบตเตอรี่ solid state สำเร็จไม่นานคนอื่นก็ตามทัน ผมไม่คิดว่า Toyota จะได้เปรียบในเรื่องนี้ รถยนต์ไฟฟ้าแบบ FCEV ถึงอย่างไรก็ต้องใช้ไฮโดรเจนซึ่งผลิตมาจากที่ใดที่หนึ่งคนชอบอ้างว่า Green Hydrogen สามารถผลิตได้จากพลังงานทดแทนได้ ผมก็สงสัยว่าถ้าอย่างนั้นเอาพลังงานทดแทนที่ว่ามาชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่สำหรับรถ BEV โดยตรงเลยดีกว่าไหมพลังงานที่ได้จาก ได้จากพลังงานทดแทนจะเปลี่ยนไปเป็นพลังงานในการขับเคลื่อนรถ BEV ได้มากกว่า FCEV แน่นอนครับ อีกประเด็นหนึ่งที่ผมหาข้อมูลไม่ค่อยได้ก็คือเนื่องจาก Hydrogen เป็นก๊าซที่ถูกเก็บได้ยากมากจากคุณสมบัติของไฮโดรเจนเองและต้องใช้ความดันสูงมากผมไม่ทราบว่าถ้าเราเติมไฮโดรเจนเต็มถังสำหรับการวิ่งระยะทางซัก 500 กิโลเมตรใช้เวลาเท่าไหร่ถ้าเราไม่ขับรถแล้วไฮโดรเจนจะค่อยๆซึมออกไปหมด นอกจากนั้น ถังที่ใช้ในการกักเก็บ Hydrogen ต้องใช้ความดันสูงถึง 700 เท่าของความดันบรรยากาศอายุการใช้งานของถังนานแค่ไหนและการเปลี่ยนถังแต่ละครั้งมีราคาเท่าไหร่ 2 ประเด็นนี้ผมหาข้อมูลไม่ค่อยได้จริงๆ สำหรับรถยนต์ที่ใช้ไฮโดรเจนแทนน้ำมันสำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายในเรื่องนี้ผมว่า nonsense มากๆทั้งในแง่ของการสร้างโครงสร้างพื้นฐานรองรับการใช้ไฮโดรเจนเป็นเชื้อเพลิงและอีกประเด็นหนึ่งถึงแม้ว่าไฮโดรเจนจะให้พลังงานมากที่สุดเมื่อเทียบตอนน้ำหนักเท่าๆกันแต่ปริมาตรของไฮโดรเจนที่ให้พลังงานเท่าๆกันต้องการพื้นที่กักเก็บมากกว่าน้ำมันนะครับ เราจะสูญเสียพื้นที่สำหรับเป็นที่เก็บของและพื้นที่ในห้องผู้โดยสารมากกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงธรรมดา นอกจากนั้น ไอเสียที่ได้มาก็ยังไม่ใช่แค่ไอน้ำอย่างเดียวแบบกรณีของรถ FC ทีวีแต่ได้ของเสียจากการสันดาปภายในมาครบถ้วนยกเว้นสารประกอบไฮโดรคาร์บอน เฉพาะประเด็นเรื่องของเสียจากการสันดาปผมยอมรับว่าดีกว่าเครื่องยนต์น้ำมันเชื้อเพลิงแต่สำหรับผมไม่ดีพอ ในกรณีที่มีไฟฟ้าเหลือเฟือจากโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์ฟิวชั่นที่มีบางคอมเม้นพูดถึงผมก็ยังมองว่าถึงอย่างไรมันก็ยังคงมีค่าใช้จ่ายอื่นๆนอกจากค่าเชื้อเพลิงสำหรับโรงไฟฟ้าพลังนิวเคลียร์อยู่จะอย่างไรก็ตามเครื่องยนต์ BEV ซึ่งใช้ไฟฟ้าโดยตรงชาร์จเข้าแบตเตอรี่มีประสิทธิภาพสูงกว่าการใช้ไฟฟ้ามาผลิตไฮโดรเจนแล้วเอาไฮโดรเจนไปผลิตไฟฟ้าในรถ FCEVแน่นอน ยังไม่ได้พูดถึงประเด็นเรื่องเรายังต้องวิจัยอีกมากในการทำให้รถ FCEVไม่ต้องพึ่งแร่หายากต่างจากกรณีรถไฟฟ้าซึ่งการวิจัยเรื่องแบตเตอรี่มี Sector อื่นๆที่สามารถรองรับ เทคโนโลยีกลุ่มเดียวกันเช่นแบตเตอรี่สำหรับเก็บพลังงานที่บ้านและแบตเตอรี่สำหรับอุปกรณ์ไฮเทครวมทั้งโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลต่างๆ ทั้ง 3 ด้านแต่ละด้านเป็นตลาดที่ใหญ่มาก เรื่องนี้พลังงานจากไฮโดรเจนไม่สามารถเทียบได้เลย ประเด็นสุดท้ายของผม ในขณะที่การใช้พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานทดแทน ร่วมกับแบตเตอรี่สามารถสนับสนุนรถBEV ได้และให้ความเป็นอิสระกับผู้ใช้ถ้าเราใช้พลังงานไฮโดรเจนก็ยังคงต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานรองรับอยู่ดีเราไม่สามารถมีบ้านที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์พลังงานทางเลือกแล้วผลิตไฮโดรเจนอัดไฮโดรเจนลงถังด้วยความดัน 700 เท่าของความดันบรรยากาศได้ด้วยตนเอง

เทคโนโลยีมันต้องค่อยเป็นค่อยไป กว่าจะพัฒนาเสร็จตลาดหายความเชื่อมั่นหายหมดแล้ว กว่าจะถึงวันนั้นจีนก็คงทำได้เช่นกัน แต่ software ญี่ปุ่นพัฒนาเขาทันหรือเปล่า แนวทางเดียวกับ Nokia เลย

Solid state ยังปัญหาเรื่อง การเกิดสะพานเกลือ แบทรุ่นต่อไปอาจจะเป็นแบทโซเดี่ยม ที่วิ่งสั้นกว่าแต่ชาร์จเร็วกว่าและผลอดภัยกว่า แล้วต่อไปก็เป็นแบท Sodium Solid State ที่จะมาครองโลกแทน ไฮโดรเจนเป็นไปได้ยากมาก เพราะเป็นก๊าซ การเติมก็ช้า การผลิตและจัดเก็บก็ยุ่งยาก และอันตราย

โตโยต้าคิดมาดีแล้วที่ไม่ไป ev เต็มระบบเพราะประเทศเจแปนเจอปัญหาขาดแคลนพลังงานไฟฟ้า อานาคตถ้าใช้รถ ev กันทั้งประเทศ เจอปัญหาแน่ๆ จนกว่าเจแปนจะจัดสันเรื่องนี้ได้ อย่าลืมนะครับเจแปนเป็นประเทศชาตินิยม รุฐบาลว่าไงประชาชนพร้อมให้ความร่วมมือเพื่อส่วนรวม

Toyota ไม่อยากไปไฟฟ้าเพราะหลายสาเหตุ ทั้งเรื่อง supply ชิ้นส่วนรถยนต์หลายหมื่นชิ้น ถ้าเปลี่ยนทันทีคือล้มเป็นแถบ ทั้งลงทุนพัฒนาเครื่องยนต์ไฮโดรเจนมาหลายปี จนทำขายได้แล้ว(Toyota Mirai)แต่ลูกค้าไม่ซื้อเพราะหาที่เติมพลังงานไม่ได้ และที่อาจจะเป็นเหตุผลหลักจริงๆคือ ceo คนก่อนรักเครื่องยนต์สันดาปมาก มากจนไม่อยากทำรถไฟฟ้า แต่กระแสรถไฟฟ้ามาแรงเลยจำใจต้องเปิดตัว bz4x เพื่อมากลบความร้อนแรงของรถไฟฟ้าจากจีน แต่ออกมาแล้วก็มีปัญหาหลายอย่างจนต้อง recall ยิ่งตอกย้ำภาพว่า ceo คนเก่าไม่เอารถไฟฟ้า ทั้งๆที่ศักยภาพของ Toyota จะทำรถไฟฟ้าขายคู่กับรถสันดาปเดิมก็ยังได้ แต่ไม่ทำเพราะ ceo ไม่ชอบ

ไฮโดรเจนก็ไม่ต่างจากน้ำมัน​ แค่เป็นพลังงานสะอาด​ แต่ก็ต้องไปซื้อไฮโดรเจนเติมเพื่อใช้พลังงาน​ แต่ราคาไฮโดรเจนถูกกว่าน้ำมันเหรอ... ถ้าพลังไฮโดรเจนเติมจากน้ำ​ รับรองตีพลัง​แบตเตอรี่​ได้ทล่มทลาย​ 😂😂😂

ระบบไฮโดรเจนคนทำมาขายได้ แต่ที่สำคัญจะมีคนซื้อคุณไหมนั่นแหละที่สำคัญ

คิดว่าทีมพากย์พันธมิตร มาเอง...555

ประวัติศาสตร์สอนเราแล้วน้ะครับ ผมเชื่อยังไง toyota ก็ไม่เจ๊ง ถ้าทำตามประวัติศาสตร์ เพราะตอน เรโน หรือพวก รถต่างๆในญี่ปุ่นเมื่อหลายสิบปีก่อน มันก็เคยจะเจ๊งเว้ย แบบหนักๆเลย ที่มันต้องรับผลิตทุกเครื่องอ้ะ สุดท้ายรับก็เข้าช่วย คิดว่าบารมีของประเทศยี่ปุ่น มันโคกับ เมกาอยู่ เดี๋ยวมันก้ช่วยกันถ้าพี่ใหย่ไม่ตายห้าไปซะก่อน 5555555

คนในตระกูลโทโยดะแตกความสามัคคี ทะเลาะกันจนนายโชอิจิโร่หัวเรือใหญ๋ตระกูลเสียชีวิต โตโยต้าระส่ำหนัก ผู้ถือหุ้นขาดความเขื่อมั่น

ส่วนตัว EV ดีกว่าพลังงานฟอสซิล แต่ก็ย้งไม่ใช่ที่สุดของความยั่งยืนค่ะ

พี่โตรอแบตแบบใหม่เกิดแน่ว่างั้น

ผมว่า Toyota อาจจะตารอย Kodak Nokia ครับ ตอนนี้เรากำลังเข้าจุดเริ่มต้นของ s curve แล้วเห็นได้จาก ส่วนแบ่งตลาดของรถ bev ในยุโรปแซงหน้ารถสันดาปไปแล้วอีกไมนานก้อคงจะเข้าสู่ระดับ disruption ถึงตอนนั้นคงไม่มี Toyota แล้วละ

ก็ให้ทำไปเพิ่มการแข่งขัน แต่ใครจะลองลองไป นี่กลัวระเบิดคลอกตาย

ขายของ...แต่ไม่ตามลูกค้า...อินดี้จิง

ตอนนี้ ที่ จีน เริ่มใช้ เทคโนโลยี รถยนต์ไฟฟ้า แบบไร้สาย ชาร์จ แล้ว จีนก้าวไปอีกขั้น