Live การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม Holistic Approach to Healthcare 5 กรกฎาคม 2567

Рет қаралды 14,397

26 күн бұрын

สามารถเข้าร่วม Membership ได้ตามลิงค์นี้ครับ / @drtany
ถ้าสมัครทางมือถือ ต้องทำผ่าน Browser ครับ ทำทาง App มันจะไม่ได้ ถ้าทำในคอมทำได้ปกติครับ

Пікірлер: 46

@thisisnathathai 12 күн бұрын

Live การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม Holistic Approach to Healthcare 5 กรกฎาคม 2567 Holistic Approach หรือ Holistic Health Care การดูแลสุขภาพองค์รวมมันคืออะไรกันแน่ คือมันเป็นคำสวยหรูคำนึงหรือเปล่าหรือว่ามันมีอะไรที่มากกว่านั้น? ➡️เวลาที่เราดูแลคนไข้คนหนึ่งเราไม่ใช่ดูแค่เรื่องว่าเขาเป็นโรคอะไร ใช้ยาอะไร เพราะว่าผมก็เคยมีประสบการณ์ว่าเวลาที่ผมทำงานใช้ทุนอยู่ที่ต่างจังหวัดตอนนั้นมันมีคนไข้บางคนทำไมเขาถึงไม่ยอมทำตามที่เราบอกนะครับ เขารู้ว่าเขาเป็นเบาหวานทำไมไม่กินยา ทำไมถึงไม่มาตามนัด แล้วทำไมบางทีถึงปล่อยจนกระทั่งเบาหวานมันเป็นเยอะนะครับ หมอทุกคนก็คงจะเคยเจอแบบนี้แล้วบางทีก็รำคาญซะด้วยแบบว่าทำไมถึงเป็นแล้วไม่กินยา แล้วที่สำคัญคือถ้ามีญาติใครสักคนเป็นโรคอะไรสักโรคนึงทำไมไม่ยอมไปหาหมอ ทำไมจะดูแลตัวเองด้วยวิธีอะไรก็ไม่รู้ที่เราฟังแล้วมันไม่น่าจะได้ผล ก็คงจะมีแบบนี้ แต่มีวันนึงมีคนไข้ของผมคนนึงที่เขาเป็นเบาหวานแล้วค่า A1c ของเขาหรือค่าน้ำตาลสะสมน้ำมันสูงมากน่าจะประมาณ 12 แล้วเราก็ให้ยาไปแล้วทำไมไม่กิน มันเป็นอย่างนี้แล้วก็ไม่ยอมมาตรวจสักทีนึง บางทีก็ไม่มาบ้าง มาทีก็มีปัญหาเยอะแยะไปหมดนะครับ วันนึงผมก็ไม่รู้อะไรดลใจเหมือนกันก็เลยลองนั่งคุยกับเขา พอตอนตรวจเสร็จปุ๊บแล้วก็มีเวลาว่างแป๊บนึงเขาก็ยังไม่กลับผมเดินไปเจอเขาข้างนอกเราก็อยากรู้ว่าทำไมมันมีปัญหาอะไรนักหนาทำไมถึงไม่ยอมใช้ยา ผมก็ได้รับรู้ว่าตัวเขาเป็นคนที่หารายได้หลักของบ้าน แล้วบ้านเขาก็อยู่ไกล ถ้าวันไหนเขาไม่ทำงานเขาก็จะไม่มีเงินใช้ในวันนั้น การเดินทางมาโรงพยาบาลมันไม่ได้เดินทางมาได้ง่ายๆนะครับอาจจะต้องรอรถสัก 1 คันเพื่อที่จะมา ถ้าวันนั้นรถไม่มาเขาก็มาไม่ได้เพราะเขาต้องติดรถคนอื่นมา มีญาติที่ป่วยอยู่ที่บ้านก็ต้องดูแล ลูกที่มีก็ต้องส่งเสียเลี้ยงดู ถ้าเราดูอย่างนี้แล้วก็จะเห็นได้ว่าชีวิตเขาลำบาก แล้วส่วนว่าทำไมถึงไม่ควบคุมอาหารคือคนพวกนี้เขามีอะไรกินเขาก็ต้องกิน เขาไม่สามารถเลือกได้ อะไรกินได้กินไม่ได้เขาไม่มีเวลาที่จะมาคิดถึงเรื่องพวกนี้ ถ้าเกิดว่าเรามองในเฉพาะตัวโรคอย่างเดียว มองในมุมของการักษาอย่างเดียวมันก็จะทำให้เราไม่ทราบเรื่องพวกนี้ทั้งหมด และบางทีการจ่ายยาให้เหมาะสมมันไม่ใช่แค่เหมาะสมกับโรคเท่านั้นแต่มันต้องเหมาะสมกับคนไข้คนนั้น ทุกคนในทางการแพทย์เราจะมาวิธีในการรักษาคนไข้ เราจะมี Guideline ต่างๆ เช่นถ้าเป็นแบบนี้ต้องให้อินซูลินแล้ว ให้ขนาดนี้อินซูลินตัวนี้ไม่ได้ต้องให้ตัวนั้น ต้องกินยาตัวนี้เสริมเข้าไป แต่ Guideline นั้นมันพูดถึงเฉพาะโรคอย่างเดียวแต่ไม่ได้พูดถึงในตัวความเป็นมนุษย์ ซึ่งมีแง่มุมอย่างอื่นอีกมากมาย ถ้าเรามัวแต่ให้อินซูลินเข้าไปเรื่อยๆและเราไม่ดูว่าชีวิตของเขาเป็นยังไงมันอาจจะได้ปัญหาขึ้นมาแทนก็ได้นะครับ อินซูลินมันต้องเก็บในที่เย็นถ้าบ้านเขาไม่มีตู้เย็นหรือไฟมันเดี๋ยวมาเดี๋ยวไม่มาให้อินซูลินไปมันก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมามันก็เสียถูกไหมครับ ก็เลยต้องมานั่งวิเคราะห์กันหลายๆอย่างที่นอกเหนือไปจากการแพทย์ทั่วๆไป

@thisisnathathai 12 күн бұрын

1️⃣ เราดูทางด้านสุขภาพแน่นอนอยู่แล้วแต่เราต้องดูอย่างอื่น สุขภาพทางด้านจิตใจ ทางด้านอารมณ์ สังคม จิตวิญญาณ พอพูดมาถึงตรงนี้คุณก็บอกคงจะสงสัยว่าจิตวิญญาณเลยเหรอ มันแปลว่าอะไรคนเราเป็นหมอผีหรือเปล่ามันต้องดูจิตวิญญาณคนไข้ด้วย เราต้องนั่งทางในแล้วไปดูตรวจสอบจิตใจของเขาหรือเปล่านะครับ ก็ไม่นะครับ จริงๆในคำว่าจิตวิญญาณมันมีอะไรที่หลายๆอย่างนะครับก็คือ 🔸ข้อแรกเราต้องดูว่าจุดหมายหรือเป้าหมายในการมีชีวิตอยู่ของเขาคืออะไร ตรงนี้สำคัญ เขาจะรู้สึกว่าตัวเองมีความหมายในการมีชีวิตได้อย่างไรถ้าเขาอยู่ไปวันๆไม่มีเป้าหมายชีวิตใดๆทั้งสิ้นมันก็ไม่ค่อยดี มันก็อาจจะทำให้การที่อยู่ไปวันๆไม่จำเป็นจะต้องขวนขวายหาอะไรมามากกว่านี้ การที่เขาสามารถที่จะมีความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ บางคนจะบอกว่าเรามี Higher Self มีตัวตนที่สูงกว่า เหนือกว่า และสามารถที่จะ Connect กับพวกนี้ได้หรือเปล่า ก็มีความสำคัญเหมือนกันที่จำเป็นจะต้องทราบเรื่องพวกนี้นะครับ ความสงบภายในจิตใจเขาเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าในใจคนไม่สงบมีแต่คิดเรื่องปัญหาต่างๆเขาก็จะแย่ได้ถูกไหมครับทำให้การรักษามีปัญหา การที่เราต้องไปดูเรื่องของความเชื่อของเขาด้วย สิ่งที่เขาให้ค่า พวกนี้มันมีความสำคัญ การที่เขาเข้าใจตัวเองเข้าใจมากน้อยแค่ไหน เข้าใจว่าอะไร พวกนี้มันมีผลหมดนะครับซึ่งถ้าเราดูเรื่องของจิตวิญญาณมันคือการดูเรื่องพวกนี้ ไม่ใช่บอกว่าจิตวิญญาณก็คือการไปดูว่าเขามีวิญญาณอะไรอยู่หรือเปล่ามีวิญญาณตามหลอกหลอนมีใครนั่งอยู่บนไหล่หรือเปล่าหรือว่าไปดูซิว่าเขามีสายมูหรืออะไรพวกนี้ยังไงบ้างนะครับหรือนับถือศาสนาอะไรมันไม่ใช่แค่ศาสนานะครับมันต้องดูถึงความเป็นตัวของเขาด้วยนะครับในแง่ของการเข้าใจชีวิต วิถีต่างๆ การคิดพวกนี้คือเป็นสิ่งที่สำคัญที่เราจะต้องทราบในแง่ของ Holistic Approach นะครับ ตรงนี้ก็คงจะต้องดูหลายๆแง่หลายๆมุม อย่างบางคนถ้าเรารักษาแต่ทางด้านของร่างกายปุ๊บแล้วถ้าเกิดคนนี้เขามีซึมเศร้าอยู่ในร่างกายแล้วเราไม่ได้ดูแล คนบางคนซึมเศร้าเขาก็ไม่อยากจะทำอะไรอยู่แล้วเพราะอาจจะไม่ยอมรักษาก็ได้พอไม่ยอมรักษาโรคมันเป็นมากขึ้นก็ยิ่งเศร้าเข้าไปใหญ่ คิดแต่ว่าอยู่ต่อไปก็ไร้ประโยชน์ เป็นภาระของคนอื่น ก็มีคนที่คิดแบบนี้เหมือนกันถ้าเราพลาดในเรื่องของพวกนี้ไปก็แย่ได้

@thisisnathathai 12 күн бұрын

2️⃣ 🔸หรือบางกรณีถ้าเราไม่ถามประวัติให้ดีเราก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เช่น สมมุติมีคนแก่คนนึงมาหาเราบอกว่า “ปวดหลัง ปวดเอว ปวดทุกอย่าง” นะครับแล้วเราก็จ่ายยาแก้ปวดไป “ป้าเอายาแก้ปวดไปกิน เอายาไปนวด” แต่ถ้าเกิดว่าเราถามดีๆมันอาจจะเป็นเพราะว่าเขามีภาระอะไรสักอย่างที่ต้องแบกของหนักอยู่ตลอดเวลานะครับ แบกเป้อยู่ข้างในดันข้างหนึ่งตลอดเวลา แบบย่ามอยู่ข้างใดข้างหนึ่งตลอดเวลานะครับหรือห้องที่บ้านเขามันอาจจะไม่เหมาะสม ถ้าเราไปลองดูถ้าต้องแบกของหนักอยู่ตลอดเวลาก็อาจจะต้องให้เขามีการปรับท่าทาง แบกก็ต้องให้น้ำหนักมันเท่าๆกันทั้ง 2 ข้างมันจะได้ไม่เอนไปข้างใดข้างหนึ่งลดอาการปวดของเขาได้อย่างนี้เป็นต้นนะครับ จัดสิ่งแวดล้อมในบ้านให้มันโอเค เขาอาจจะมีสายตายาว มีปัญหาต่างๆถ้าเกิดว่าเดี๋ยวไปหกล้มก็จะเป็นปัญหาได้แล้วคนอายุเยอะหกล้มก็ไม่ใช่เรื่องปกติถูกไหมครับมันอาจจะมีปัญหาอย่างอื่นตามมาที่นำไปสู่การเสียชีวิตแล้วก็การพิการได้ เราก็ควรจะต้องถามเขาดูสิว่า “เวลาที่เขาอยู่บ้านมันมีปัญหาอะไรพวกนี้หรือเปล่านะครับมีประวัติเคยหกล้มมาก่อนไหม ถ้ามีอันนี้เราต้องซักประวัติแล้วว่าทำไมมันถึงหกล้มได้นะครับ เป็นเพราะสายตาไม่ดี เป็นเพราะว่าที่บ้านมีของระเกะระกะเยอะ หรือเป็นเพราะกล้ามเนื้ออ่อนแรง มีกระดูกทับเส้น มีอาการเจ็บปวดที่ไหนนะครับ พวกนี้มันก็จำเป็นจะต้องประเมินให้มันครบๆทุกอย่างนะครับ ซึ่งตรงนี้มันก็จะมีคนพยายามเอาหลายๆอย่างมาตอบโจทย์ เช่น Lifestyle Medicine เป็นต้นนะครับ เขาก็จะพยายามดูซิว่ารวมๆแล้วเรามีวิธีชีวิตเป็นแบบไหนนะครับ จริงๆ Lifestyle Medicine ผมว่ามันเหมือนเป็นการสั่งการรักษาอะไรสักอย่างซึ่งเหมาะกับคนๆนั้นนะครับ ทุกคนรู้ดีแหละว่าออกกำลังกายมันดี แต่เราจะไปรู้ได้ไงว่าคนๆนั้นจะออกกำลังกายแบบนั้นได้ เช่น สมมุติเขาทำงานทั้งวันคุณจะให้เขาไปวิ่งมาราธอนมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วนะครับ หรือถ้าเกิดว่าเขาทำงานแบบนั้นบ่อยๆแล้วอ่าเขาจะเอาเวลาที่ไหนมาดูแลตัวเองแบบนี้เป็นต้น หรือบางคนมีอาการปวดตรงนั้นตรงนี้ก็จะไปออกกำลังกายเหมือนคนทั่วไปมันก็ทำไม่ได้อยู่ดี ดังนั้นสิ่งนี้มันก็คือเป็นสิ่งที่สำคัญนะครับ

@thisisnathathai 12 күн бұрын

3️⃣ ผมก็ต้องขอพูดตรงๆว่าปัญหาของ Family Medicine ในเมืองไทยมันยังไม่เป็น Family Medicine ซึ่งเป็นอุดมคติจริงๆนะครับ ในทางการแพทย์หรือองค์กรการของหมอมันยังมีการดูถูก Family Medicine พอสมควรเลยนะว่าเรียนอะไรไม่ได้ก็ไปเรียน Fam Med สิ มันมีคนคิดอย่างนี้นะครับ จะคิดว่าเป็นหมอไม่เก่งหรือเปล่าว่าไปเรียน Fam Med มันไม่ได้อะไรขึ้นมาเลยนะครับ แล้วก็ไม่ได้รับการโปรโมท ไม่ได้รับการ Recognize คือคนทุกคนอาจจะไม่ได้เห็นความสำคัญของ Family Medicine จริงๆนะครับ แต่จริงๆ Family เป็นต้นแบบอย่างหนึ่งของ Holistic Approach นะครับเพราะว่ามันไม่ได้เพียงแค่ดูเฉพาะร่างกายของคนไข้แต่มันต้องดูไปถึงองค์รวมที่บ้านเขาอยู่กันยังไงนะครับ สังคมที่เขาอยู่เป็นแบบไหน ความสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัวนะครับความเข้าใจในโรคของเขานะครับ เรื่องของความเชื่อ เรื่องของศาสนาต่างๆมีความเกี่ยวข้องกันหมดเลยนะครับ แล้วไม่ใช่หมอคนเดียวที่เข้ามาในการรักษาแบบนี้นะครับ มันจำเป็นจะต้องมีคนหลายๆคนมีความเกี่ยวข้องกันด้วยนะครับ นักกายภาพบำบัด เภสัชกร พยาบาลยังต้องมีนักสังคมสงเคราะห์อีกนะครับ มีนักโภชนาการ นักจิตบำบัด จิตแพทย์พวกนี้ต้องมาเกี่ยวข้องกันหมดเลย แล้วก็บางครั้งที่อเมริกาอาจจะต้องรวมไปถึงเรื่องของศาสนา พระ นักบวช บาทหลวง อิหม่าม มีหมดเลย ที่อเมริกาก็มีต้องนี้ด้วยนะครับว่าคนพวกนี้เขาจำเป็นจะต้องมาเข้าร่วมกับสหวิชาชีพเพื่อดูแลคนไข้คนนั้นแบบองค์รวมแบบนี้เป็นต้น

@thisisnathathai 12 күн бұрын

4️⃣ ส่วน Holistic Approach คือถ้าเราไม่เข้าใจคนไข้อย่างแท้จริงแล้วล่ะก็หลายครั้งเราจะไม่สามารถที่จะเข้าถึงว่าการรักษามันควรจะเป็นแบบไหน แล้วเราไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงไม่รู้ เราจะไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงไม่ทำตามที่เราแนะนำ ตรงนี้คงจะต้องเข้าใจเรื่องพวกนี้จริงจังนะครับ เช่น สมมุติว่าถ้าคุณเป็นภูมิแพ้บ่อยๆแล้วมันไม่ยอมหายสักที ผมบอกว่าคุณต้องรู้ก่อนสิว่าคุณแพ้อะไร แต่มันก็ต้องซักประวัติลงไปอีกว่าแล้ววันๆทำอะไรบ้าง มีโอกาสเจอสิ่งที่แพ้ได้ยังไงนะครับ ถ้าเป็นผมผมก็จะถามว่า “แล้วเวลาที่เราอยู่ตรงไหนที่มันมีอาการแพ้ สถานการณ์แบบไหนที่เรามีอาการขึ้นมา ลองหลับตานึกภาพซิว่าสถานการณ์นั้นมันมันมีอะไรอยู่รอบข้างไหม มันมีอะไรอยู่รอบข้างหรือเปล่า เรากำลังทำอะไรอยู่ แบบไหนที่เราเป็นบ่อยนะครับ” แบบนี้มันก็จะสามารถที่จะพอบอกได้คร่าวๆว่ามันเป็นยังไง แต่บางทีมันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น สมมุติว่าเราเป็นพนักงานที่ต้องดูแลต้นไม้แล้วเราแพ้เกสรดอกไม้บางอย่างที่อยู่ในนั้น อย่างนี้มันหลีกเลี่ยงไม่ได้นะถูกไหมครับ ถ้าเราหลีกเลี่ยงออกงานก็ไม่มีทำ ดังนั้นคนประเภทนี้ที่จำเป็นจะต้องเจอกับสิ่งที่แพ้อยู่ตลอดเวลาเราก็ต้องเข้าใจเขาด้วยว่ามันหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็อาจจะต้องใช้ยาที่มันเยอะหน่อยนะครับ แล้วก็อาจจะต้องบอกว่าอย่างน้อยก็ต้องใส่หน้ากากในการทำงาน ถ้าเป็นไปได้ก็ N95 มันจะได้ลดอาการแพ้มากกว่าหน่อยนะครับ เราก็ต้องเข้าใจเรื่องพวกนี้แล้วเราอาจจะต้องสอนว่าเวลาที่เราใส่หน้ากากต้องใส่ให้แนบ ถ้าใส่นานๆแล้วหน้ากากมันอาจจะมีความชื้นอันนี้ก็ต้องเปลี่ยนหน้ากากนะครับ เราก็ต้องมาคำนึงถึงว่าหน้ากากมันแพงทำยังไงดี บางทีบางคนเขาหามันไม่ได้ เราก็จะบอกว่า ถ้า N95 ซึ่งมันดีที่สุดเราหามาไม่ได้มันแพงคุณก็ใช้หน้ากากธรรมดาแต่ว่ามันอาจจะต้องเป็นหน้ากากที่มันแนบไปกับหน้าให้ชัดเจนหรือว่าอาจจะใส่หน้ากากผ้าไว้ข้างนอกเผื่อว่าเราจะมาซักก็ได้อย่างนี้เป็นต้น หรือจะเอาหน้ากากผ้าไว้ข้างในแล้วหน้ากากธรรมดาไว้ข้างนอก 2 ชั้นแนบกับหน้าอันนี้ก็อาจจะพอช่วยได้ในเรื่องของการประหยัดถูกไหมครับ เราไม่ได้ให้สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคนนั้นนะครับแต่เราดูที่องค์รวมว่าสถานการณ์ของเขา สิ่งที่ดีที่สุดในสถานการณ์แบบนั้นคืออะไร ก็เหมือนกับการให้เคมีบำบัดในคนไข้นั่นแหละ ไม่ใช่ว่าทุกคนให้เคมีบำบัดแล้วมันจะดี ให้ยามุ่งเป้าแล้วมันจะดี บางคนให้ยามุ่งเป้าไม่ได้เพราะว่ามันแพงเกินไป หามาไม่ได้ มีภาระค่าใช้จ่ายถ้าท่านจะใช้ยามุ่งเป้าแล้วหมดตัวมีหนี้สินเยอะแยะก็อยู่อย่างไม่มีความสุขอยู่ดี อย่างนั้นก็แปลว่าเราอาจจะไม่ใช้ยามุ่มเป้า เราอาจจะใช้ยาตัวอื่นที่ต่อโรคมันไม่ได้ดีเท่ากับยาบำบัดตัวอื่น แต่มันเหมาะสำหรับสถานการณ์นั้นมากที่สุด

@thisisnathathai 12 күн бұрын

5️⃣ Family Medicine คือการดูแลทั้งครอบครัวเลยครับ จริงๆคือหมายความว่าต้องดูแลได้ทั้งครอบครัว ทั้งเด็ก บางคนทำคลอดได้ด้วยนะครับ ดูแลเด็กแรกคลอด ดูแลเด็กเล็ก เด็กโต ผู้ใหญ่ คนในครอบครัวดูได้หมด ต้องไปบ้านคนไข้ประเมินดูซิว่าบ้านเขามันมีปัญหาอะไรได้บ้างนะครับ ปัญหาระหว่างคนในครอบครัว ปัญหาสังคม ปัญหาที่อยู่อาศัย สุขลักษณะอนามัยมันเป็นแบบไหนก็ต้องรู้หมดทุกอย่างเลยนะครับ นี่คือเป็น Family Medicine นะครับ แล้วก็จะมีการออกเยี่ยมบ้านเป็นระยะๆไปกันหลายๆคนนะครับ โดยที่มีผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขาไปคอยดูให้ที่นั่นด้วย บางทีก็ต้องมีหน่วยงานชีวอนามัยพวกนี้ไปดูนะครับบางทีก็ไปดูเรื่องของสถานที่ทำงานซึ่งก็อาจจะมีความคาบเกี่ยวกันกับพวกอาชีวอนามัยนะครับ ประเทศไทยไม่ได้เป็นต้นกำเนิดของ Family Medicine ครับมันมาจากต่างประเทศก่อนทุกอย่างที่ไทยมีมันไม่ได้มาจากประเทศไทยครับ มาจากต่างประเทศหมดทุกอย่าง ดังนั้นเข้าใจไว้เลยนะครับว่าสาขานี้มันเป็นสาขาของอเมริกา ของต่างประเทศก่อน ก่อนที่จะมาไทยนะครับ 🌀บันทึกความรู้เพิ่มเดิม การเสียชีวิตจากโรคสูญเสียการทรงตัว ถ้าเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับสมองน้อย เรียกว่า Cerebellum ถ้า Cerebellum มันเสียไปก็ทำอะไรไม่ได้ ถ้ามันเป็นจากโรคพันธุกรรมน่าจะมีโรคหนึ่งชื่อว่า Spinocerebellar Ataxia (SCA) ซึ่งมันมีหลายรูปแบบ ไม่มีวิธีการรักษาครับ โรคนี้เป็นแล้วตายอย่างเดียวเลยครับ

@FragranzaTrippa 24 күн бұрын

ขอบคุณอาจารย์มากๆค่ะที่สละเวลามาตอบคำถาม หัวข้อเกี่ยวกับ Holistic Approach ซึ่งเรื่องนี้ก็สามารถนำผสมผสานกับการแพทย์แผนปัจจุบันได้ตามความเหมาะสม ทำให้นึกถึง กิจกรรม "ตักบาตรข้างเตียง" ที่ทำกันในหลายๆโรงพยาบาลเลยค่ะ ทางโรงพยาบาลจะนิมนต์พระมาที่หอผู้ป่วยผู้สูงอายุ เพราะเล็งเห็นว่า น่าจะช่วยให้จิตใจผู้ป่วยสดใสเบิกบานขึ้น มีการประพรมน้ำมนต์ ให้ศีลให้พร และบรรยายธรรมเล็กๆน้อยๆด้วยค่ะ ผู้ป่วยก็ชอบ เหมือนได้ความเป็นสิริมงคล จิตใจแข็งแรงขึ้นค่ะ

@evechaisorn776 24 күн бұрын

ขอให้บุญที่คุณหมอนำความรู้มาให้เป็นวิทยาทาน จงคุ้มครองคุณหมอและครอบครัวรวมทั้งน้องRosieให้มีสุขภาพแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ ตลอดไปด้วยเทอญ ขอขอบคุณจากใจค่ะ🙏👍🤟

@ALL86898 24 күн бұрын

มาฟังต่อ คุณหมอตอบคำถามพร้อมอธิบาย แก้ไข แนะนำ วิธีการ ต่างๆ 🌷การโทษ คนอื่นในทุกๆเรื่อง ความคาดหวัง และอย่าคาดหวัง มากถ้าผิดหวัง จะได้ไม่เสียใจ 🌷เมื่อไรมองความสัมพันธ์เป็นสิ่งของจะมีปัญหา เช่น มีลูก ลูกต้องเป็นอย่างที่เราต้องการ ต้องเข้าใจจิตใจเด็ก อย่างแท้จริง การบ่นการดุว่า จะทำให้ลูกไม่กล้าเล่า พูดปัญหากับพ่อแม่และไม่กล้าปรึกษาเรื่องต่างๆให้พ่อแม่ฟัง เลยไปปรึกษา เพื่อน อาจพากันไปทำ ในสิ่งที่ไม่เหมาะสม อาจ ติดเสพติด ยา คบหาเพื่อน เพราะไม่มีใครในบ้านฟัง เค้า อย่าเอาลูกเป็นสิ่งของของพ่อแม่จะทำอย่างไรก็ได้ ปัญหาเกิด จากบ้านไปสู่สังคม คุณหมอให้ข้อคิดเรื่องนี้ 🌷ปัญหาสุขภาพ ของคนไข้ ทานอาหารไม่ได้ ไม่มีฟันเคี้ยว ก็ทำ ฟันปลอม ให้ 🌷ต้องสอบถาม คนไข้ ให้เกิดความเข้าใจตรงกัน 🌷การให้ความสนใจดารา เป็นเรื่องส่วนตัว ของเค้า ไม่ควรต้องสนใจ และ เจ้าตัวก็ไม่ควรเอาเรื่องส่วนตัวมาชี้แจงใคร เพราะ ออกมาก็มีความเห็นสองฝ่าย ดี และไม่ดี ถ้าคน จิตอ่อน แอ ก็จะยอมรับคำติเตียน ของชาวบ้านไม่ได้ 🌷การมีคนมาต่อว่าเราต่อหน้า คนอื่น ต้องบอกออกไปตรงๆเลย ถ้ากลัว ก็จะไม่กล้าโต้ตอบ แล้วเก็บเอามาคิด เสียสุขภาพจิตเรา 💥คุณหมอแนะนำให้พิจารณาตนเอง ว่าจริง ที่เค้าว่าไหม และเอาเวลามาแก้ไข ตัวเองพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นจะดีกว่าเสียเวลามานั่งคิด ย้ำ จิตใจตัวเอง จากคำพูดคนอื่น 🌷การควบคุมคนหมู่มาก มีสองแบบคือ 1คอมมิวนิสต์ 2ประชาธิปไตย อย่างที่1สั่งอะไร ทำตามได้อย่างรวดเร็วไม่มีข้อโต้แย้ง แต่จะไม่มีความคิดพัฒนา หรือออกนอกกรอบ 2ให้อิสระเสรีมากเกิดความวุ่นวาย การโต้เถียง แสดงความคิดหลากหลาย การทำอะไรจึงต้องใช้เวลา เสร็จสิ้นช้า กว่าจะลงตัว มีความแตกต่างกัน ทั้งส่วนดี และเสีย 🌷การประเมิน นั้นต้องค่อยๆเปลี่ยนแปลง เช่นค่าใช้จ่าย การสร้างรายได้ การสร้างสุขภาพ คุณหมอตอบFCดังนี้ 🌷 การฝังเข็มได้ผลในเรื่องความเจ็บปวด 🌷อัลตาซาวด์ ร.พบางที่ให้กินน้ำเยอะบางร.พให้อดน้ำ เพราะว่าถ้าดู 💥กระเพาะปัสสาวะ ต้องกินน้ำจะได้เห็น ภายในชัด 💥ถ้าเป็นดูตับ ไม่ต้องดื่มน้ำเยอะ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ การรักษา ของแต่ละร.พ และ แต่อวัยวะที่ต้องการดู 🌷การออกกำลังกาย ต้องกินโปรตีน ให้พอถ้าต้องการลดน้ำหนัก กล้ามเนื้อหาย บ้างอยู่แล้ว 🌷คนยุคนี้ GZใข้อุดมการณ์ไม่ได้ เหมือนคนสมัยก่อน เงินแก้ปัญหา ได้ แต่มีคนคิดถึงผลประโยชน์มากก็ได้ผลน้อย อีกสำหรับเงิน 💥ต้องโปรโมทภาพลักษณ์ ของการดูแล สุขภาพืแบบองค์รวม ในแบบที่คุณหมอกล่าว มากๆให้มีคนอยากลงทุนทำ ขอบคุณค่ะ 🌷❤️🙏

@evechaisorn776 24 күн бұрын

เล่าสู่กันฟังค่ะ ดิฉันพึ่งไปรักษาริดสีดวงที่อยู่ภายในปลายทวารหนักมาค่ะ โดยการทำ“Hemorrhoid Banding” โดยไม่ต้องผ่าตัด ถ้าอยู่นอกปลายทวารมีวิธีเดียวคือต้องผ่าตัดค่ะ แต่ที่ทำbanding ถ้าไม่เปลี่ยนเรื่องการกินอาหารหรือนั่งบนโถส้วมนานๆดื่มน้ำน้อยก็จะกลับมาเป็นอีกค่ะ

@Chaweewan8769 23 күн бұрын

ขอขอบคุณ

@FragranzaTrippa 24 күн бұрын

เรื่อง "ลูกเนียง" ซึ่งเป็นผักยอดฮิตของภาคใต้ เรื่องนี้อธิบดีกรมควบคุมโรคเคยออกมาเตือนแล้วค่ะว่า ถ้ากิน "ลูกเนียง" ในปริมาณมากเสี่ยงอันตรายจากสารพิษ คือ "กรดเจงโคลิค" (Djenkolic acid) ทำลายระบบประสาทของไตให้เสื่อมลง เสี่ยงไตวายเฉียบพลันค่ะ แนะนำต้มให้สุก หรือหั่นชิ้นบางๆ แล้วนำไปตากแดดก่อน เพื่อลดพิษในลูกเนียงให้น้อยลงค่ะ...

@unun23pnii 23 күн бұрын

ขอบคุณคุณหมอมากเลยค่ะที่พูดเรื่องนี้ ตอนนี้เลือกเรียนหมอเฟมเมด เพิ่งอบรมเสร็จเลย สาเหตุที่ตัดสินใจเรียนเพราะมีความรู้สึกแบบคุณหมอเลยค่ะ คนไข้บางคนที่รักษาได้ไม่ดี ทำไมนะ เราก็อยากรู้ illness มากกว่า disease ของเค้า หนูชอบมาฟังหมอแทนมาก เพราะบางทีสามารถเอาคำที่อาจารย์อธิบายเอาไปอธิบายให้คนไข้ฟังง่ายมากๆเลยค่าาา

@ALL86898 24 күн бұрын

ขอบคุณคุณหมอ แทน อาจารย์แพทย์ 🙏 Liveเรื่อง Holistic Approach to Health care คือการดูแลสุขภาพ แบบองค์รวม และตอบคำถาม สมาชิก ช่อง ได้ความรู้และคำแนะนำ ดีดี ❤️

@Best-om7ud 24 күн бұрын

เพิ่งจะเห็น ว่าคนติดตามคุณหมอ6แสนกว่าแล้ววว สุดยอดมากๆ ยินดีด้วยนะคะ 👏👏👏👍👍👍🎉🎉🎉

@jutharatborn8675 22 күн бұрын

วันนี้วันหยุด หนูฟังได้ยาวๆจนจบคลิปเลยค่ะ ตอนไลฟ์สดคือตั้งใจฟังมาก เพราะไม่รู้ความหมายของหัวข้อเลยค่ะ พอวันนี้มาฟังอีกรอบ เลยลองมาคิดและวเคราะห์ในเคสของตัวเอง เลยรู้ว่าการไปพบหมอต้องเปิดใจมากๆ และกล้าเล่าทุกปัญหาและสถานการณ์ความเป็นจริงทุกอย่างให้คุณหมอฟัง หนูโชคดีมากที่เจอคุณหมอที่เป็นลูกค้ากันมาอย่างยาวนาน เลยกล้าพูดกล้าคุยถึงสาเหตุและรากของปัญหาภายในทั้งหมด และคุณหมอก็แสนจะใจดีมีเมตตากับหนูมากๆเช่นกันค่ะ พอมีตรงนี้หนูรู้สึกเชื่อใจ เชื่อมั่นในตัวคุณหมอที่หนูรักษาตัวด้วย จนทำให้หนูเคร่งครัดในเรื่องการดูแลตัวเอง และที่โชคดีมากกว่านั้น มาเจอช่องคุณหมอธนีย์ในยูทูปอีก คราวนี้พลังใจเกินร้อย แน่วแน่มากว่าต้องหาย เลยไม่ค่อยเครียดและกังวลเลย ถ้าหนูดูแลตัวเองดีและหาย คราวนี้คุณหมอที่รักษาคนไข้ก็จะเบาลงไป 1 คน ดังนั้นต้องเชื่อฟังและปฏิบัติตาม ไม่ให้เป็นภาระแก่ตัวเองและคุณหมอใจดีของหนู :) หนูเป็นคนไม่เที่ยวกลางคืน ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ใช้กัญชา มีอย่างเดียวที่ทำให้เครียด น่าจะป็นหน้าที่และความรับผิดชอบต่อผู้อื่น คือ ถูกคาดหวังเยอะจากคนใกล้ตัวค่ะ และคนใกล้ตัวหนูนี่ก็ขี้บ่น เรื่องเยอะสาระพัดอีก ดังนั้นต้องฝึกสติให้แน่นๆ เตือนตัวเองว่า "เรื่องเขาเราไม่เกี่ยว" สกิลหูทวนลมขั้นเทพต้องเข้า ดื้อเงียบต้องมาค่ะ😂😂 ขอบคุณสำหรับไลฟ์หัวข้อนี้นะคะ เป็นไลฟ์สบายๆ คำถามไม่เยอะเกินไป จบท้ายที่หนังผี ช่างดีจริงๆ🤣🤣 เมมเบอร์ก็น่ารักมีหัวข้อที่น่าสนใจเสมอ คุยไปคุยมาสปอยหนังผีกันสนุกเลย 555+ ส่วนหนูยังเชียร์หนังเรื่อง Reacher ช่อง Primer ค่ะ มันส์ดี ชอบความตาต่อตา ฟันต่อฟันของพระเอกเรื่องนี้ ลุคแบดๆแต่มีคุณธรรมสุดๆ ใช้ความเก่งของตัวเองให้มีประโยชน์ และที่สำคัญกวนบาทาดี หนูเลยชอบค่ะ 555+ ขอบคุณคุณหมอธนีย์และเมมเบอร์ที่น่ารักทุกคนค่ะ🙏❤️

@wonsilapattawee8134 23 күн бұрын

สวัสดีค่ะอาจารย์หมอ ได้มาดูย้อนหลังเอาค่ะ อาจารย์เกริ่นมา ฟังแล้วมันจริง มันเรื่องจริงแล้วยากมากๆที่จะแก้ไข เพราะมันเกี่ยวข้องพัวพันกันไปหมด สังคมนอกบ้านในบ้านความเชื่อพื้นฐาน ชีวิตที่ฝังรากลึกอะไรมายังมีปัจจัยอะไรอีกหลายๆอย่างสถานถิ่นที่อยู่ห่างไกลบนดอยสูง เวลาไปหาหมอ ชอบนั่งสังเกตุและเข้าไปคุยกับคนเหล่านั้นที่มาหาหมอทำให้ได้ความรู้หลากหลายและเข้าใจพวกเขาค่ะ

@paraneeplanantakuntorn 24 күн бұрын

กราบขอบพระคุณคุณหมอมากค่ะ ที่กรุณาให้ความกระจ่าง วันนี้เปลี่ยนแปลงความเข้าใจเรื่อง Holistic Health/ Care/ Approach ไปเลย เพราะที่ติดหัวมาคือมันเป็นภาพแคบมาก เพิ่งเข้าใจว่าไม่ใช่เรื่องการรักษาโรคอย่างเดียว แต่เป็นการดูแลใจ ความสัมพันธ์ชุมชน ความเชื่อ ศาสนา สิ่งแวดล้อม โภชนาการ ฯลฯ ดูแลตัวเองดีกว่า ป่วยหนักในอนาคต และเป็นโอกาสที่การแพทย์ปัจจุบัน จะเข้าถึงชาวบ้านได้บ้างอย่างละมุนละม่อม

@user-kz8td5du7h 23 күн бұрын

สวัสดีวันเสาร์ค่ะอาจารย์หมอขอบพระคุณมาก ๆ ค่ะ 🙏👍

@chitrawongwichit2416 23 күн бұрын

จะคอยฟังเรื่องโรคมะเร็งคนส่วนใหญ่เป็นแล้วทำไมถึงตาย เห็นมีคนที่เป็นโรคมะเร็งหลายๆคน ที่มีชีวิตยืนยาวเป็นสิบๆปี ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่เป็นโรคมะเร็งตับอยากควบคุมโรคได้และมีชีวิตที่ยืนยาวอีกสักหน่อยค่ะ

@suriyawong75 23 күн бұрын

สวัสดีค่ะคุณหมอ ดูย้อนหลัง ขอบคุณนะคะ ขอให้คุณหมอมีสุขภาพแข็งแรงค่ะ😊😍😍

@user-fl1mf2px4l 24 күн бұрын

ฟังไลฬสดด้วยค่ะเพิ่งจะจบไป👏👏👏 ขอบคุณค่ะ อ.หมอ 🙋🙋🙋

@pooknuannapa4908 24 күн бұрын

ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์นะคะ ช่วยให้แง่คิดในการมองหลายๆองค์ประกอบ ไม่ได้มองแต่สิ่งที่เห็นเท่านั้น

@Hoshi1451 24 күн бұрын

😊ขอบคุณอจ.หมอมากนะคะ🙏🐰^-^❤

@user-zc2je6eq6l 23 күн бұрын

ขอบคุณอาจารย์มากค่ะ

@Euang-Mali 24 күн бұрын

😊🌸🍃ขอบคุณมากนะคะ🙏

@wanpenvanichsombat6790 22 күн бұрын

ช่วยตอบหน่อยนะคะเกี่ยวกับซื้อเครื่อง cpapและมินิอย่างละเครื่องซื้อได้ที่ไหนคะในอเมริกา อยู่เวอรจิเนียค่ะ

@DrTany 22 күн бұрын

ตอบในคอมเมนต์ก่อนหน้าไปแล้วครับ

@tassaneesajjawong9524 24 күн бұрын

❤❤❤❤❤❤❤❤❤❤🎉

@SFung-hv2ov 23 күн бұрын

ขอบคุณสำหรับความรู้และความเห็นในไลฟ์นี้ค่ะคุณหมอแทน

@fxdj7275 24 күн бұрын

❤❤❤❤❤❤❤

@jantana1024 24 күн бұрын

หมอของรัฐบาลไม่มีเวลาถามรายละเอียดคนไข้หรอกค่ะ

@spra88 24 күн бұрын

เท่าที่เคยไปทำงานอนามัย งาน FM น่าเบื่อมาก OPD แบบ GPรักษาแบบ RM ไม่ได้ใช้ความรู้ที่เรียนมา ไปเยี่ยมบ้านน่าเบื่อมาก พยบ.เวชปฏิบัติทำได้ดีกว่าเรา จบ พบ.ไม่ได้เรียนเรื่องดูแลคนไข้เรื่องความเป็นอยู่ ซึ่งไม่ใช้วิชาแพทย์สักเท่าไร อนามัยมี พนง.สาสุข ถนัดทำงานด้านนี้ เราได้แต่ดูเค้าทำงาน

@RachaneeMitchell-tv4rd 24 күн бұрын

(*_*) สวัสดีค่ะคุณหมอ

@spra88 24 күн бұрын

เมืองไทยยังไม่ค่อยใช้ semeglutide ตาบอด มี อ.ท่านนึงเขียนลง FB แล้ว

@user-hm7iu1ov8v 23 күн бұрын

เพชร ทองคำ พลาตินั่ม เข้าใจได้ว่าต้องแพงเพราะมันหายาก. แต่ทำไมยาพุ่งเป้าถึงแพงจนคนชายขอบรากหญ้า เข้าไม่ถึง. มันแพงที่ต้นทุนวัสดุ ต้นทุนการผลิต หรือต้นทุนองค์ความรู้ หรือมีเหตุผลอื่นๆครับ.

@DrTany 23 күн бұрын

เพราะสิทธิบัตรของมันครับ ผู้ผลิตต้องทำกำไรจากมัน เพราะจริงๆ ยาสัก 10 ตัวที่คิดค้นจะมีใช้ได้จริงๆแค่ตัวเดียว ที่เหลือเสียเงินฟรีในการคิดค้นทดลอง แถมต้องจดลิขสิทธิ์ตั้งแต่เริ่มผลิตทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าจะได้ใช้ยานั้นมั้ย ลิขสิทธิ์ก็มีอายุ เช่น 10 ปี แต่ขั้นตอนคิดค้นทดลองอาจจะ 6 ปีไปแล้ว ดังนั้นสมมุติได้ใช้จริงๆ ก็มีเวลาเหลือแค่ 4 ปีในการทำกำไร และเอามาโปะที่ลงทุนกับยาอีกเก้าตัวที่ไม่ได้ออกมาใช้จริงครับ